Page 4 - หลักสูตรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนสำหรับรัฐวิสาหกิจ
P. 4

1



                            1. ควำมเป็นมำ


                                กำรประกอบธุรกิจโดยเคำรพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีควำมเป็นมนุษย์นั้น นอกจำกจะท ำให้ธุรกิจเป็นที่ยอมรับแล้วยังเป็นโอกำสน ำประเทศสู่กำรพัฒนำที่
                 ยั่งยืน เพรำะธุรกิจคือพลังขับเคลื่อนควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจของประเทศ และสิทธิมนุษยชนคือ กำรดูแลคนทุกคนให้สำมำรถด ำรงชีวิตอยู่ได้ด้อย่ำงมีศักดิ์ศรี มีควำม

                 ปลอดภัยในชีวิต มีมำตรฐำนกำรครองชีพที่เหมำะสม มีโอกำสเท่ำเทียมในกำรเข้ำถึงบริกำรของรัฐ และได้ด้รับกำรปฏิบัติที่เป็นธรรม ดังนั้น ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนก็คือกำรสร้ำง
                 ควำมเจริญเติบโตทำงเศรษฐกิจควบคู่ได้ปกับกำรสร้ำงควำมเป็นธรรมทำงสังคม จำกควำมส ำคัญดังกล่ำว องค์กำรสหประชำชำติจึงได้ด้มีกำรรับรองเอกสำรหลักกำรชี้แนะเรื่องสิทธิ
                 มนุษยชนส ำหรับธุรกิจ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights – UNGP) ตำมกรอบงำนของสหประชำชำติ ในกำรคุ้มครอง เคำรพ และเยียวยำ ที่เกิดขึ้น

                 บน 3 เสำหลักคือ ให้รัฐมีหน้ำที่ในกำร ‘คุ้มครอง’ ประชำชน (State Duty to Protect) จำกกำรถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระท ำโดยบุคคลรวมทั้งองค์กรภำคธุรกิจ ให้ภำคธุรกิจ
                 ‘เคำรพ’ ในหลักสิทธิมนุษยชน (Corporate Responsibility to Respect) ได้ม่ว่ำจะเป็นธุรกิจระดับใดก็ตำม และกำรเข้ำถึง “กำรเยียวยำ” (Access to Effective Remedy)

                 ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนต้องเข้ำถึงกำรเยียวยำที่มีประสิทธิผลได้ด้มำกขึ้น  ซึ่งประเทศได้ทยเองได้ด้ให้ค ำมั่นต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติในกำรพิจำรณำ
                 สถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศได้ทย เมื่อเดือนพฤษภำคม 2560 ว่ำจะด ำเนินกำรจัดท ำแผนปฏิบัติกำรระดับชำติเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และแสดงให้เห็นโดยประจักษ์ใน

                 กำรร่วมลงนำมปฏิญญำควำมร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนหลักกำรชี้แนะว่ำด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชำชำติ (UNGPs) ในภำคีเครือข่ำย 8 องค์กร ประกอบด้วย
                 คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ กระทรวงกำรต่ำงประเทศ กระทรวงพำณิชย์ กระทรวงยุติธรรม สภำอุตสำหกรรมแห่งประเทศได้ทย สมำคมธนำคำรได้ทย สภำหอกำรค้ำแห่ง

                 ประเทศได้ทย และเครือข่ำยโกลบอลคอมแพ็กประเทศได้ทย เมื่อวันที่ 31 พฤษภำคม 2560  ณ ศูนย์ประชุมสหประชำชำติ กรุงเทพมหำนคร โดยมีนำยกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์
                 จันทร์โอชำ  เป็นสักขีพยำนในกำรลงนำม เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภำพและพลังของหน่วยงำนภำครัฐ รัฐวิสำหกิจ และภำคเอกชนที่มีควำมพร้อมในกำรสำมำรถด ำเนินธุรกิจควบคู่
                 ได้ปกับกำรเคำรพสิทธิมนุษยชน  เพื่อร่วมกันน ำประเทศได้ปสู่ “ควำมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

                               ในภำครัฐนั้นถือว่ำหลักกำรรัฐวิสำหกิจ (State - owned enterprises; SOEs) เป็นกลได้กส ำคัญของรัฐในกำรขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกำรลงทุนของประเทศ
                 รวมถึงเป็นผู้ให้บริกำรสำธำรณะแก่ประชำชน ได้ม่เพียงแต่ในระดับประเทศเท่ำนั้น รัฐวิสำหกิจยังมีควำมส ำคัญอย่ำงยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจโลก เนื่องจำกรัฐวิสำหกิจของประเทศต่ำง

                 ๆ ได้ด้ด ำเนินกำรทั้งภำยในประเทศและนอกประเทศในภำคอุตสำหกรรมที่ส ำคัญและเกี่ยวข้องต่อปัจจัยในกำรด ำรงชีวิตของประชำชนในปัจจุบันแทบทั้งสิ้น อำทิ โครงสร้ำงพื้นฐำน
                 กำรขนส่งคมนำคม พลังงำน กำรสื่อสำรโทรคมนำคม และกำรธนำคำร ฯลฯ

                               จำกข้อมูลพบว่ำปัจจุบันรัฐวิสำหกิจในประเทศได้ทยมีจ ำนวนรวมทั้งสิ้น 56 แห่ง มีมูลค่ำทรัพย์สินรวมประมำณ 6 ล้ำนล้ำนบำท และรัฐวิสำหกิจยังสำมำรถสร้ำง




                                                                                                                                   หลักสูตรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนส ำหรับรัฐวิสำหกิจ
                                                                                                                                 โดย คณะท ำงำนด้ำนส่งเสริมกำรเคำรพสิทธิมนุษยชน
                                                                                                                      คณะท ำงำนด้ำนขับเคลื่อนธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนและกำรพัฒนำที่ยั่งยืน
   1   2   3   4   5   6   7   8   9