Page 158 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 158
กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
หน้า ๑๔
เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๔๒ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
การมอบอํานาจตามวรรคหนึ่ง ให้จัดทําเป็นหนังสือตามแบบที่คณะกรรมการกําหนด ทั้งนี้
คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ลงนามในหนังสือมอบอํานาจก็ได้
ข้อ ๒๙ ในการเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ตามข้อ ๒๘ ให้ดําเนินการต่อหน้าผู้ครอบครอง
หรือดูแลสถานที่ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง ในกรณีที่หาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ดําเนินการต่อหน้าบุคคลอื่น
อย่างน้อยสองคน ซึ่งได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน ในการนี้ ให้ผู้ครอบครอง หรือดูแลสถานที่
หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้องให้ความร่วมมือเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปโดยสะดวก
ข้อ ๓๐ ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งพยานหลักฐาน
ภายในกําหนดระยะเวลาตามข้อ ๒๓ วรรคสาม หรือกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มา
ให้ถ้อยคําต่อคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ผู้รับผิดชอบคําร้องรายงานต่อคณะกรรมการพร้อมความเห็นว่า ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน
หรือถ้อยคําของบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว มีความจําเป็นต้องใช้ประกอบการพิจารณา
หรือไม่เพียงใด ทั้งนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาออกคําสั่งให้บุคคลหรือหน่วยงานนั้นดําเนินการ
ตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)
คําสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการกําหนด
ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคําร้องรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป
เพื่อให้การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นไปโดยไม่ล่าช้า หากคณะกรรมการพิจารณา
ตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอที่จะใช้ประกอบการพิจารณา
ต่อไปได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคําร้องดําเนินการตรวจสอบและจัดทํารายงานผลการตรวจสอบต่อไป
ตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่
ข้อ ๓๑ ในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการอาจกําหนดพยานผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อมาให้ความเห็นประกอบการพิจารณา ส่วนการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความเห็นประกอบการพิจารณานั้น
ให้เป็นหน้าที่และอํานาจของกรรมการที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ ๓๒ ในการดําเนินการเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และ
ป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์อันมีผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนในวงกว้าง คณะกรรมการอาจนํากระบวนการ
ไต่สวนสาธารณะ การพิจารณารวมคําร้อง การจ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ การศึกษาวิจัย หรือ
การอื่นใดอันสมควรแก่กรณี มาใช้ประกอบการตรวจสอบในเรื่องที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีที่สาเหตุของปัญหาเกี่ยวข้องกับนโยบาย กฎหมาย กฎ รวมถึงระบบที่ก่อให้เกิด
การเลือกปฏิบัติ
(๒) กรณีเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
(๓) กรณีที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม
(๔) กรณีอื่นที่คณะกรรมการเห็นสมควร
149
.indd 149 27/8/2562 12:27:40