Page 107 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 107

กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ





                                                             หน้า   ๘
                   เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๑๒๓   ก         ราชกิจจานุเบกษา                  ๑๒   ธันวาคม   ๒๕๖๐


                   ไม่ครบจํานวนที่ต้องสรรหา  แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังดํารงตําแหน่งอยู่  ถ้ามี  มีจํานวนถึงห้าคน
                   ก็ให้ดําเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้  และเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว
                   ให้คณะกรรมการดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไปพลางก่อนได้  โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่า

                   คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่  และให้ดําเนินการสรรหาเพิ่มเติมให้ครบตามจํานวน
                   ที่ต้องสรรหาต่อไปโดยเร็ว

                           ให้ประธานวุฒิสภานําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ  และ
                   เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
                           มาตรา  ๑๕  ผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้เป็นกรรมการโดยที่ยังมิได้พ้นจากตําแหน่ง

                   ตามมาตรา  ๑๐  (๒๐)  (๒๑)  หรือ  (๒๒)  หรือยังประกอบวิชาชีพตามมาตรา  ๑๐  (๒๓)  อยู่
                   ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพดังกล่าวแล้ว  ต่อประธานวุฒิสภาภายในเวลา

                   ที่ประธานวุฒิสภากําหนด  ซึ่งต้องเป็นเวลาก่อนที่ประธานวุฒิสภาจะนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้ง
                   กรรมการ  ในกรณีที่ไม่ได้แสดงหลักฐานภายในกําหนดเวลาดังกล่าว  ให้ถือว่าผู้นั้นสละสิทธิ  และให้
                   ดําเนินการสรรหาใหม่

                           มาตรา  ๑๖  ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครหรือ
                   ผู้ได้รับการสรรหา  ให้เป็นหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย  คําวินิจฉัยของ

                   คณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด
                           การเสนอเรื่องเพื่อให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยตามวรรคหนึ่ง  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และ
                   วิธีการที่คณะกรรมการสรรหากําหนด

                           การวินิจฉัย  ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย
                           ให้นําความในวรรคหนึ่ง  วรรคสอง  และวรรคสาม  มาใช้บังคับแก่กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับ

                   คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสรรหาด้วยโดยอนุโลม  แต่กรรมการสรรหาที่ถูกกล่าวหาว่า
                   ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามจะอยู่ในที่ประชุมในขณะพิจารณาและวินิจฉัยมิได้
                           มาตรา  ๑๗  ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาได้รับเบี้ยประชุมและ

                   ค่าตอบแทนอื่นตามที่ประธานวุฒิสภากําหนด  แต่สําหรับเบี้ยประชุมให้กําหนดให้ได้รับเป็นรายครั้ง
                   ที่มาประชุมในอัตราไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา

                   ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาได้รับในแต่ละเดือน  แล้วแต่กรณี
                           มาตรา  ๑๘  การนําคดีอันเกี่ยวเนื่องกับการได้มา  คุณสมบัติ  ลักษณะต้องห้าม  หรือ
                   การพ้นจากตําแหน่งของกรรมการสรรหาไปสู่ศาลปกครอง  ไม่เป็นเหตุให้ทุเลาการปฏิบัติตามคําวินิจฉัย

                   ของคณะกรรมการสรรหา  และมิให้นําบทบัญญัติว่าด้วยมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวตามกฎหมาย
                   ว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองมาใช้บังคับ

                           มาตรา  ๑๙  กรรมการมีวาระการดํารงตําแหน่งเจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
                   และให้ดํารงตําแหน่งได้เพียงวาระเดียว



                    98





                         .indd   98                                                                               27/8/2562   12:27:16
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112