Page 111 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 111
กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
หน้า ๑๒
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐
ที่มีบทบัญญัติหรือที่คณะกรรมการมอบหมายให้กรรมการแต่ละคนกระทําได้ ให้กรรมการแต่ละคน
มีอํานาจที่จะดําเนินการดังกล่าวได้ แต่ในการใช้อํานาจนั้นจะต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกันด้วย ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนด
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการจะมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่
เป็นผู้ดําเนินการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นแทนคณะกรรมการก็ได้
มาตรา ๒๙ ในกรณีที่จําเป็นต้องได้ข้อมูลหรือมีการศึกษาเรื่องใด คณะกรรมการจะขอให้
สํานักงานจ้างบุคคลหรือสถาบันซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญดําเนินการในเรื่องนั้นได้ตามที่จําเป็น หรือ
ในกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแทนก็ได้ โดยต้อง
คํานึงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ก่อนการจ้างหรือแต่งตั้ง คณะกรรมการ
ต้องกําหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวไว้ให้ชัดเจน
หลักเกณฑ์และวิธีการจ้าง และค่าตอบแทนของบุคคลหรือสถาบัน หรือการแต่งตั้งอนุกรรมการ
การพ้นจากตําแหน่ง ค่าตอบแทน และประโยชน์ตอบแทนอื่น และวิธีปฏิบัติงานของอนุกรรมการ
ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด
มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้กรรมการ
และพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
กรรมการไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง เนื่องจากการที่ตนได้ปฏิบัติ
ตามหน้าที่และอํานาจโดยสุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้
มาตรา ๓๑ เงินเดือน เงินประจําตําแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมการ
ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเท่ากับกรรมการ
ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ
ให้กรรมการได้รับเงินค่ารับรองเหมาจ่ายเป็นรายเดือนตามอัตราที่กระทรวงการคลังกําหนด
ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าเงินประจําตําแหน่งของประธานกรรมการหรือกรรมการ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๓๒ กรรมการซึ่งดํารงตําแหน่งไม่น้อยกว่าหนึ่งปีมีสิทธิได้รับบําเหน็จตอบแทน
เป็นเงินซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อพ้นจากตําแหน่งด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(๑) ครบวาระ
(๒) ตาย
(๓) ลาออก
(๔) มีอายุครบเจ็ดสิบปี
ในการคํานวณบําเหน็จตอบแทนนั้น ให้นําอัตราเงินเดือนตามมาตรา ๓๑ คูณด้วยจํานวนปี
ที่ดํารงตําแหน่ง เศษของปีให้นับเป็นหนึ่งปี
102
.indd 102 27/8/2562 12:27:17