Page 173 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 173
๓. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International
Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR)
ประเทศไทยเป็นภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยมีผลใช้บังคับกับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๓๐ มกราคม
พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นต้นไป
กติการะหว่างประเทศฉบับนี้ ได้กล่าวถึงสิทธิในการกำาหนดเจตจำานงตนเอง (Right of
Self-determination) และพันธกรณีของรัฐภาคีที่รับรองว่าจะเคารพและประกันสิทธิของบุคคล
รวมทั้งการห้ามการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็น
ทางการเมือง สัญชาติ สถานะทางเศรษฐกิจ สังคม ถิ่นกำาเนิด หรือสภาพอื่นใด โดยจะดำาเนินการ
ให้เกิดผลในทางปฏิบัติภายในประเทศ การประกันว่าบุคคลที่ถูกละเมิดจะได้รับการเยียวยา ไม่ว่าบุรุษ
หรือสตรีจะได้รับสิทธิพลเมืองและการเมืองอย่างเท่าเทียมกัน โดยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
ได้แก่ สิทธิในการมีชีวิตอยู่ เสรีภาพจากการถูกทรมาน การห้ามบุคคลมิให้ตกอยู่ในภาวะเยี่ยงทาส
การห้ามบุคคลมิให้ถูกจับกุมตามอำาเภอใจ การปฏิบัติต่อผู้ถูกลิดรอนเสรีภาพอย่างมีมนุษยธรรม
การห้ามบุคคลถูกจำาคุกด้วยเหตุที่ไม่สามารถชำาระหนี้ตามสัญญาได้ เสรีภาพในการโยกย้ายถิ่นฐาน
ความเสมอภาคของบุคคลภายใต้กฎหมาย การห้ามมิให้มีการบังคับใช้กฎหมายอาญาย้อนหลัง
สิทธิการได้รับรองเป็นบุคคลตามกฎหมาย การห้ามแทรกแซงความเป็นส่วนตัว การคุ้มครองเสรีภาพ
ทางความคิด เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก การห้ามการโฆษณาชวนเชื่อ
เพื่อการสงครามหรือก่อให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ สิทธิที่จะชุมนุมอย่างสันติ การรวมกัน
เป็นสมาคม สิทธิของชายหญิงที่อยู่ในวัยที่เหมาะสมในการมีครอบครัว การคุ้มครองสิทธิเด็กและ
การที่พลเมืองทุกคนมีสิทธิที่จะมีส่วนในกิจการสาธารณะ การรับรองว่าบุคคลทั้งปวงย่อมเสมอภาคกัน
ตามกฎหมายและได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน การรับรองสิทธิของชนกลุ่มน้อยทางเผ่าพันธุ์
ศาสนา และภาษาภายในรัฐ
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น 173

