Page 176 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 176

๖.  อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
               หรือที่ย�่ายีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading
               Treatment or Punishment : CAT)


                          ประเทศไทยเป็นภาคีเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยมีผลใช้บังคับแก่ประเทศไทย
               ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นต้นไป


                          อนุสัญญาฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะระงับและยับยั้งการกระทำา การทรมาน และทารุณ
               กรรมในทุกรูปแบบและทุกสถานการณ์ กำาหนดให้การทรมานเป็นสิ่งต้องห้าม แม้ในการประกาศ
               ภาวะฉุกเฉิน ภาวะสงคราม หรือปัจจัยคุกคามภายนอก รวมทั้งคำาสั่งการของเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่เป็น

               ข้อยกเว้นให้มีการทรมานได้ ห้ามการส่งผู้ลี้ภัย และบุคคลอื่นๆ กลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
               หากมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้นั้นจะต้องถูกส่งกลับไปทรมาน กำาหนดให้รัฐภาคีบัญญัติให้การกระทำาการ
               ทรมานเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และมีการลงโทษที่เหมาะสม รวมทั้งให้รัฐภาคีมีเขต

               อำานาจศาลในการดำาเนินคดีฐานการทรมาน ทั้งในเรื่องการสอบสวนและฟ้องร้องดำาเนินคดี รวมทั้ง
               ให้มีการส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีได้รับการร้องขอ และให้มีความร่วมมือในการสืบคดี ทั้งใน

               กระบวนการทางอาญาและทางแพ่ง กำาหนดให้รัฐภาคีมีพันธกรณีในการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่
               เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เพื่อป้องกันการกระทำาทรมาน และติดตาม
               ตรวจสอบการจับกุมคุมขังต่างๆ ในเขตอำานาจ เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำาทรมานเกิดขึ้น กำาหนด

               ให้มีการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ถูกทรมานให้มีสิทธิฟ้องร้องดำาเนินคดี โดยรัฐจะต้องเร่ง
               ให้มีการสอบสวนและดำาเนินคดีดังกล่าว และหากพิสูจน์ว่าเป็นความจริง ผู้เสียหายย่อมได้รับค่าชดเชย

               อย่างเต็มที่




































             176     ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180