Page 131 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 131
ในโอกาสเดียวกันก็โปรดเกล้าฯ ให้เหล่าข้าราชบริพารจัดการแสดงที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
และประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งมีทั้งศิลปะไทยเดิม และศิลปะประยุกต์ เช่น การขับร้องโดยใช้ดนตรีไทย
และดนตรีสากลประกอบการแสดง การแสดงละครประวัติศาสตร์ประกอบดนตรี เป็นต้น เพื่อให้ผู้ชม
ได้ทั้งความเพลิดเพลิน และความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติความเป็นมาของชาติบ้านเมือง
โดยเฉพาะเรื่องโขนเป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งจัดแสดง
เฉพาะในงานพระราชพิธีสำาคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก งานสมโภชพระนคร งานสมโภช
พระอาราม งานพระเมรุ เป็นต้น พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงทำานุบำารุงศิลปะการแสดงโขน
โดยโปรดฯ ให้มีการฝึกหัดโขนหลวงไว้ประจำาราชสำานัก สืบทอดมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
การแสดงโขนเจริญรุ่งเรืองที่สุดในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการตั้งกรมมหรสพ
ตั้งโรงเรียนฝึกหัดโขน ละคร และดนตรีปี่พาทย์ขึ้น ซึ่งต่อมาได้โอนมาอยู่กับกรมศิลปากร
เมื่อกรมศิลปากรตั้งโรงเรียนนาฏศิลป์ขึ้น จึงรวบรวมครูโขนที่กระจัดกระจายไปประกอบอาชีพอื่น
มาเป็นครูสอนโขน ตามแบบแผนโขนหลวง และฟื้นฟูการแสดงโขนขึ้นใหม่ จัดแสดงให้ประชาชนชม
เป็นครั้งแรก ณ โรงละครศิลปากร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ผลปรากฏว่าเป็นที่สนใจของชาวไทย
และชาวต่างประเทศ มีการแสดงในงานรัฐพิธีต่างๆ นำาไปแสดงเผยแพร่ยังต่างประเทศ และการจัด
แสดงเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะอย่างเป็นทางการและส่วนพระองค์ เช่น ในการต้อนรับเจ้าหญิง
อเล็กซานดรา แห่งเคนท์ ณ หอประชุมกระทรวงวัฒนธรรม สนามเสือป่า เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๐๒ การแสดงโขนในงานรับเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้ากรุงเดนมาร์ก และสมเด็จพระราชินีอินกริด
ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๕ และในโอกาสที่เสด็จ
พระราชดำาเนินทอดพระเนตรการแสดงโขน ณ โรงละครแห่งชาติอีกหลายครั้ง
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น 131