Page 6 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 6

พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
                                                                          Human Rights Obligations of the ASEAN Community











              ขึ้นเป็นครั้งแรก  โดยให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียนมีขอบเขตอ�านาจหน้าที่เป็นไปตามที่ก�าหนดโดยที่ประชุม
              รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (มาตรา ๑๔) ซึ่งองค์กรดังกล่าว คือ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วย
              สิทธิมนุษยชน (AICHR)

                       ๒.  AICHR  ถือเป็นกลไกและองค์กรหลักในด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียนจัดตั้งขึ้นที่ประเทศไทยในปี  พ.ศ.
              ๒๕๕๒ และมีภารกิจหลักตามที่ก�าหนดในเอกสารขอบเขตอ�านาจหน้าที่รวม ๑๔ ประการ ซึ่งประการที่ส�าคัญที่สุดใน
              ระยะเริ่มแรก คือ การจัดท�าปฏิญญาสิทธิมนุษยชนอาเซียน (AHRD) โดยในการวิจัยได้เน้นความส�าคัญต่อ AICHR ซึ่ง

              ถือเป็นกลไกสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคล่าสุดของโลก (นับจากการจัดตั้งกลไกระดับภูมิภาคในยุโรป อเมริกาและ
              แอฟริกา) โดยได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายทั้งในเชิงโครงสร้างและการด�าเนินงานที่เน้นภารกิจในด้านการส่งเสริม
              สิทธิมนุษยชน (Promotion) แต่ยังขาดความชัดเจนในการด�าเนินภารกิจการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protection) ทั้งนี้

              ได้รวมการวิเคราะห์เกี่ยวกับคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC)
              และคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยการอนุวัติการตามปฏิญญาการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติ (ACMW)

              ซึ่งเป็นกลไกสิทธิมนุษยชนในกรอบอาเซียนที่มีภารกิจเฉพาะด้านด้วย
                       นอกจากประเด็นตราสารสิทธิมนุษยชนและกรอบกลไกสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่ในปัจจุบันในอาเซียนแล้ว
              รายงานฉบับนี้ยังวิเคราะห์แนวโน้มการพัฒนาในระดับภูมิภาคของอาเซียน ตลอดจนกลไกและการจัดท�าตราสาร

              สิทธิมนุษยชนในอนาคต พร้อมทั้งจัดท�าข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการเสริมสร้าง
              บทบาทของประเทศไทยในเวทีสิทธิมนุษยชนอาเซียนด้วย และมีข้อสรุปที่ส�าคัญ ดังนี้

                       ๑. การจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘
              ถือเป็นก้าวส�าคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
              โดยเฉพาะสมาชิกของประชาคมอาเซียนทั้งสิบประเทศ (ซึ่งอาจเพิ่มจ�านวนขึ้นในอนาคต) ความเปลี่ยนแปลงและความ

              ท้าทายเชิงโครงสร้างของ AC คือ วิสัยทัศน์อาเซียนและพิมพ์เขียวประชาคมเสาหลักทั้งสามของอาเซียนจะเอื้อให้การ
              ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวพัน (Crosscutting) กับทั้งสามเสาหลักสามารถด�าเนินไปได้
              อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ โดยประเด็นโครงสร้างดังกล่าวและการพัฒนาหรือปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชนของ

              AC จะส่งผลโดยตรงต่อจ�านวนและคุณภาพที่เพิ่มมากขึ้นของตราสารสิทธิมนุษยชนในอาเซียนต่อไป
                       ๒. ส�าหรับบทบาทของประเทศไทยโดยเฉพาะ กสม. ต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนในอาเซียน ผู้วิจัยได้จัดท�า
              ข้อเสนอแบ่งออกเป็นสองระดับ คือ ระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยในระดับประเทศ ประเทศไทยสามารถเสริม

              สร้างบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนได้โดยการเข้าเป็นภาคีในตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ  พิจารณาถอนข้อสงวน
              ต่อตราสารที่ได้เข้าเป็นภาคีแล้ว และเสริมสร้างประสิทธิภาพการอนุวัติการตามพันธกรณีเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่

              ประเทศสมาชิกอื่น ๆ นอกจากนั้น ยังสามารถด�าเนินการให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั้งในด้านการแลกเปลี่ยน
              ประสบการณ์และความช่วยเหลือทางเทคนิคในประเด็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน  โดยเฉพาะการจัดตั้ง
              กลไกสิทธิมนุษยชนระดับประเทศ ส�าหรับการด�าเนินการในระดับภูมิภาค ประเทศไทยซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้ง

              อาเซียนสามารถผลักดันให้มีการปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียนและการสร้างคุณภาพตราสารสิทธิมนุษยชน
              ที่อาเซียนจะพัฒนาขึ้นต่อไป





                                                                                                               5
                                                                          ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11