Page 118 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 118

๙๑



                          3.๔.๒ การก าหนดอุทยานแห่งชาติ  (กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาา และพันธุ์พืช

                   กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

                                 อุทยำนแห่งชำติ  คือ พื้นที่ประกอบด้วยทรัพยำกรธรรมชำติที่มีควำมส ำคัญทำงระบบ

                   นิเวศวิทยำ อันมีควำมสวยงำมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพำะตัว ซึ่งมีจุดมุ่งหมำยเพื่อกำรอนุรักษ์
                   ทรัพยำกรธรรมชำตินั้นๆ ในประเทศไทยมีอุทยำนแห่งชำติ จ ำนวน ๑๒๗ แห่ง  เนื้อที่ ๓๘,๘๕๘,๙๑๗ ไร่
                   (ข้อมูลจำกพระรำชกฤษฎีกำประกำศอุทยำนฯ จนถึงปัจจุบัน)


                                 ในกำรประกำศจัดตั้งอุทยำนแห่งชำติ ประเทศไทยได้เริ่มให้ควำมส ำคัญและส ำรวจพื้นที่
                   เพื่อกำรอนุรักษ์ในรูปแบบอุทยำนแห่งชำติมำตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ และได้ส ำรวจและประกำศจัดตั้งเป็น

                   อุทยำนแห่งชำติแห่งแรกขึ้น คือ อุทยำนแห่งชำติเขำใหญ่ ในวันที่ ๑๘ กันยำยน พ.ศ. ๒๕๐๕

                                 ขั้นตอนกระบวนงำนกำรประกำศจัดตั้งอุทยำนแห่งชำติ เมื่อรัฐบำลเห็นสมควรก ำหนด
                   บริเวณที่ดินที่มีสภำพธรรมชำติอุดมสมบูรณ์สวยงำมและเป็นที่น่ำสนใจให้คงอยู่ในสภำพธรรมชำติเดิมหรือ

                   สงวนไว้เพื่อประโยชน์แก่กำรศึกษำและควำมรื่นรมย์ของประชำชน ก็สำมำรถด ำเนินกำรเพื่อประกำศ

                   จัดตั้งเป็นอุทยำนแห่งชำติได้ โดยมีพระรำชกฤษฎีกำและแผนที่แสดงแนวเขตบริเวณที่ก ำหนดแนบท้ำย
                   พระรำชกฤษฎีกำด้วย ในกำรก ำหนดที่ดินให้เป็นอุทยำนแห่งชำติกระท ำได้ โดยอำศัยอ ำนำจตำมควำม
                   แห่งพระรำชบัญญัติอุทยำนแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๐๔ และพระรำชก ำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระรำชบัญญัติ

                   อุทยำนแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๓๒ ซึ่งที่ดินบริเวณที่จะก ำหนดเป็นอุทยำนแห่งชำติจะต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ใน

                   กรรมสิทธิ์ หรือครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมำยของบุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งมิใช่ทบวงเมือง

                                 ในกำรก ำหนดพื้นที่อุทยำนแห่งชำติมีหลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำ คือ (๑) พื้นที่ที่จะ
                   ประกำศเป็นอุทยำนแห่งชำติจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีขนำดใหญ่เพียงพอที่จะรักษำสถำนะทำงนิเวศวิทยำ

                   ของพื้นที่ไว้ได้ ซึ่งตำมหลักสำกลได้ก ำหนดมำตรฐำนไม่น้อยกว่ำ ๑๐ ตำรำงกิโลเมตร แต่ทั้งนี้ มิใช่
                   เป็นเกณฑ์ตำยตัวขึ้นอยู่กับคุณค่ำของพื้นที่ที่จะก ำหนดเป็นอุทยำนแห่งชำติเป็นส ำคัญ (๒) จะต้อง

                   ประกอบไปด้วยทรัพยำกรธรรมชำติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ป่ำไม้ที่น่ำสนใจ มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์หรือ
                   มีคุณค่ำทำงประวัติศำสตร์ หรือมนุษยศำสตร์ และ (๓) จะต้องเหมำะสมต่อกำรท่องเที่ยว พักผ่อน พักแรม

                   หรือกำรศึกษำหำควำมรู้

                                 กำรประกำศจัดตั้งอุทยำนแห่งชำติ มีขั้นตอนในกำรด ำเนินงำน ดังนี้

                                 (๑) กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ และพันธุ์พืช แต่งตั้งเจ้ำหน้ำที่ไปด ำเนินกำรส ำรวจ

                   ข้อมูลรำยละเอียดพื้นที่ที่เหมำะสมในกำรประกำศเป็นเขตอุทยำนแห่งชำติ เมื่อได้ข้อมูลแล้วน ำมำ
                   ด ำเนินกำร คือ เจ้ำหน้ำที่อย่ำงน้อย ๓ ฝ่ำย พิจำรณำควำมเหมำะสมของข้อมูลรำยละเอียดของพื้นที่

                   แห่งท้องที่ น ำข้อมูลเข้ำชี้แจงต่อหน่วยงำนในพื้นที่ประกอบด้วย องค์กำรบริหำรส่วนต ำบล หรือเทศบำล
                   คณะอนุกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรลักลอบท ำลำยทรัพยำกรป่ำไม้ประจ ำจังหวัดหรือหน่วยงำน

                   บริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค หน่วยงำนบริหำรรำชกำรส่วนกลำง
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123