Page 173 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 173
172
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง
การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
การจัดทำาตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน จึงเป็นการสร้าง
เครื่องมือในการตรวจสอบการดำาเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลตามที่ประเทศไทยมีพันธกรณี
ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศในการคุ้มครองบุคคล
ตัวชี้วัดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่คณะผู้ศึกษาจัดทำาขึ้น ประกอบด้วยตัวชี้วัด
ทั้งสิ้น ๔๒๐ ตัว แบ่งเป็นตัวชี้วัดหลัก จำานวน ๑๙๔ ตัว และตัวชี้วัดรอง จำานวน ๒๒๖ ตัว หรือสามารถ
แบ่งเป็นตัวชี้วัดโครงสร้าง ๑๐๑ ตัว ตัวชี้วัดกระบวนการ ๑๖๕ ตัว ตัวชี้วัดผลลัพธ์ ๑๕๔ ตัว
ตัวชี้วัดที่คณะผู้ศึกษาได้ดำาเนินการพัฒนาขึ้นนี้ใช้กรอบการดำาเนินการที่ได้แนะนำาโดย
สำานักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเป็นแนวทาง โดยการศึกษาพันธกรณี
ระหว่างประเทศ สาระแห่งสิทธิในมิติต่างๆ เพื่อให้ตัวชี้วัดนั้นได้บ่งชี้ถึงพันธะหน้าที่ด้านต่างๆ ของรัฐ
ตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนที่พัฒนาขึ้นนี้ มิได้ประสงค์ที่จะสร้างเกณฑ์สิทธิมนุษยชนที่เป็นอุดมคติของ
สิทธิมนุษยชน แต่ตั้งอยู่บนหลักการทางกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อให้นำา
ไปสู่การยอมรับและใช้ได้จริง
สิ่งที่ควรคำานึง ก็คือ ตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเป็นเพียงเครื่องมือในการตรวจสอบการดำาเนินงาน
ของรัฐบาลเท่านั้น สิทธิมนุษยชนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และรัฐจะเคารพ ปกป้องคุ้มครองสิทธิประชาชน
หรือไม่เพียงใดขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติงานเป็นสำาคัญ
อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถทำาให้ประชาชนได้รู้ว่าตนเองมีสิทธิอย่างไร รัฐมีหน้าที่อย่างไร
และตนเองจะใช้ช่องทางใดในการเรียกร้องเยียวยาสิทธิ ก็จะช่วยป้องกันการละเมิดสิทธิ และช่วย
ให้มีการยกระดับการพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชนให้สูงขึ้น ดังนั้น การสร้างจิตสำานึกให้รักษาสิทธิ
และสร้างกระบวนการการติดตาม ตรวจสอบ โดยภาคประชาชนจึงมีความสำาคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า
การตรวจสอบโดย กสม.
คณะผู้ศึกษาหวังว่า ตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนที่พัฒนาขึ้นนี้นอกจากจะเป็นเครื่องมือให้ กสม.
แล้วยังจะเป็นเครื่องในการติดตาม ตรวจสอบการดำาเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนโดยภาคประชาสังคม
ได้อีกด้วย
ตัวชี้วัดที่จัดทำาขึ้นนี้ไม่ใช่ตัวชี้วัดชุดสุดท้าย หรือตัวชี้วัดที่ใช้ได้ตลอดไป แต่จะต้องมีการพัฒนา
เสริม หรือปรับให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีพลวัตรสูง และให้สอดคล้องกับ
พันธกรณีของรัฐที่จะต้องส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าขึ้นตามลำาดับ
สิ่งสำาคัญไม่หย่อนไปกว่าการกำาหนดตัวชี้วัดฯ ก็คือ จะต้องมีการพัฒนาวิธีการเก็บข้อมูล และ
การรายงานข้อมูลและหลักฐานด้านต่างๆ ที่จำาเป็นต่อการวิเคราะห์ ประเมิน เพื่อสนับสนุนในการ
ออกแบบกำาหนดตัวชี้วัดเพื่อให้มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน
ของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีของรัฐให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น