Page 688 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 688
นโยบายกฎหมายด้านที่ดินป่าไม้
่
่
- นโยบายปาไม้ที่ดีจะช่วยให้มีแนวคิดทิศทางการจัดการที่ดินและปาที่ชัดเจน ยังช่วยให้การ
่
ั
่
คุ้มครองรักษาและจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินปาไม้มีประสิทธิภาพ แต่นโยบายปาไม้ปจจุบันนอกจากไม่
สมสมัยแล้วยังขาดมิติทางสังคมและการพัฒนา และยังมิได้คํานึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน
่
นโยบายปาไม้หลายข้อจึงนําไปปฏิบัติไม่ได้หรือบางข้อที่นําไปปฏิบัติก็ทําให้เกิดความขัดแย้งกับ
่
ราษฎรในท้องถิ่น จึงควรทบทวนนโยบายปาไม้เสียใหม่ ด้วยการ
- กําหนดหลักการสําคัญ คือ เน้นความสามารถนําไปปฏิบัติได้ กล่าวคือจะต้องปรับปรุงให้
สอดคล้องกับบริบททางสังคมและการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป
ั
- มุ่งการตอบสนองปญหาความต้องการของชุมชนท้องถิ่นและประเทศชาติโดยคํานึงถึงการมี
ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
่
่
้
- วัตถุประสงค์สําคัญของนโยบายปาไม้แห่งชาติควรเน้นความสมดุลของการปองกันรักษาปา
่
ธรรมชาติ การฟื้นฟูปาโดยกระบวนการทางธรรมชาติและการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น และการ
จัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรมเท่าเทียมกัน
่
- และที่สําคัญควรจะต้องให้ความสําคัญกับสิทธิของราษฎรและชุมชนในเขตปาและช่วย
่
่
ส่งเสริมให้ชุมชนในเขตปามีการวางแผนการใช้ที่ดินของชุมชนและใช้สิทธิในการบริหารจัดการที่ดินปา
ไม้ร่วมกับรัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมกับชุมชนท้องถิ่นและประเทศชาติ
อย่างสมดุลยั่งยืน
- กลไกการจัดการความขัดแย้ง ควรเน้นการแปลงเปลี่ยนความขัดแย้งเป็นความร่วมมืออย่าง
สร้างสรรค์และการบริหารจัดการความขัดแย้งอย่างสันติวิธีและเป็นธรรม
่
ั
- เพื่อกฎหมายปาไม้หลายฉบับมีความสมสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปจจุบันและไม่
ซํ้าซ้อนระหว่างหน่วยปฏิบัติด้วยกัน จึงควรปรับปรุงกฎหมายให้มีความเป็นเอกภาพ เชื่อมโยงและ
่
สอดคล้องกับการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติด้านอื่น ๆ ด้วยการนํากฎหมายปาไม้ทุกฉบับมา
่
บูรณาการเป็น ”ประมวลกฎหมายปาไม้” ที่มีลักษณะเป็นกฎหมายส่งเสริม และสนับสนุนราษฎรใน
่
ท้องถิ่นให้มีอํานาจและบทบาทหน้าที่ในการคุ้มครองและจัดการใช้ประโยชน์ปาอย่างสมดุลยั่งยืน
นอกจากนั้นยังควรทบทวนยกเลิกมติ ค.ร.ม. หลายฉบับที่ส่งผลกระทบ เช่น
1. ยกเลิก มติ ครม. 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 ซึ่งห้ามไม่ให้ออกเอกสารสิทธิในที่ดินที่ไม่มีหลักฐาน
การครอบครองเป็นการเฉพาะราย เพราะไม่เป็นธรรมกับราษฎรที่อยู่มาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ
2. มติ ครม. 30 มิถุนายน พ.ศ. 2541
2.1 การสํารวจแนวเขต เพราะที่ผ่านไม่มีการสํารวจชัดเจนว่ามีแนวเขตเท่าไหร่ ทับที่ชาวบ้าน
หรือไม่
2.2 การใช้ภาพถ่ายทางอากาศเพื่อดูการบุกรุกโดยที่แนวเขตไม่ชัดเจน แสดงถึงความไม่
เป็นธรรมกับราษฎร
2.3 ประเด็นพื้นที่ล่อแหลมต่อระบบนิเวศ หากมีชุมชนอาศัยอยู่ ย่อมสะท้อนว่า ชุมชน
สามารถดํารงอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมต่อระบบนิเวศได้ โดยต้องอยู่อย่างสอดคล้องกับระบบนิเวศนั้น ๆ
10‐6

