Page 687 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 687
- ข้อเสนอต่อกฎหมายแพ่ง เรื่องการขายทอดตลาด ต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบว่ามี
ที่ดินอยู่จริง ตรงตามที่ขายทอดตลาดหากผู้ซื้อได้ที่ดินไม่ตรงสามารถคืนได้ โดยที่ดินขายทอดตลาด
นั้นต้องไม่อยู่ในคดีพิพาท และจะต้องมีการตรวจสอบพิสูจน์ที่ดินว่าอยู่ในคดีพิพาทหรือไม่
- กรณีกระบวนการในการออกเอกสารสิทธิที่ไม่รัดกุมเพียงพอ ส่งผลกระทบหลายด้าน
โดยเฉพาะกับราษฎรที่ถูกออกโฉนดทับที่ ทําให้เสียสิทธิในที่ดิน ถูกดําเนินคดีในข้อหาบุกรุก ดังนั้น
ในกระบวนการรับจํานองและขายทอดตลาด จะต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่จริง ว่าเป็นเอกสาร
สิทธิที่ออกโดยชอบ เป็นพื้นที่ที่ไม่อยู่ระหว่างคดีพิพาท
- พื้นที่ที่เป็นคดีและถูกสถาบันการเงินยึด จะต้องยกเลิกระบบการขายทอดตลาด เปลี่ยนเป็น
การมอบให้หน่วยงานที่รัฐจัดตั้งขึ้น เข้ามาจัดสรรให้ราษฎรที่มีความจําเป็นใช้ประโยชน์
- การออกเอกสารโดยไม่ชอบในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากการกว้านซื้อที่ดิน เมื่อชาวบ้าน
ั
ไม่ขายก็จะใช้วิธีกดดัน บีบให้ขาย รากเหง้าของปญหาคือการถือครองที่ดินโดยไม่จํากัด ดังนั้น ต้องแก้
โดยการยกเลิกประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2502 และนํากฎหมายที่ดิน
มาตรา 34 - 49 เรื่องการจํากัดการถือครองที่ดินกลับมาบังคับใช้
- ยกเลิกเอกสารแสดงการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินชั่วคราวซึ่งออกโดยหน่วยราชการ
ต่าง ๆ ที่ทําให้เกิดหลายมาตรฐานและกระทบสิทธิของราษฎร ให้มาใช้เอกสารแสดงการครอบครอง
และใช้ประโยชน์ที่ดินระบบเดียวกัน เช่น เอกสาร ส.ป.ก.
- ระบบเอกสารสิทธิ เอกสารสิทธิต้องเป็นระบบเดียว ซึ่งอาจเป็นโฉนดหรือเอกสารรูปแบบอื่น
ตามที่จะกําหนดขึ้น แต่เอกสารดังกล่าวจะต้องมีเงื่อนไขท้ายเอกสารเพื่อกํากับการใช้ประโยชน์ที่ดินที่
แตกต่างกันไปตามบริบทพื้นที่ เช่นสภาพภูมิประเทศ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ
ความล่อแหลมต่อภัยพิบัติ หรือลักษณะการใช้ประโยชน์ มีการจํากัดการถือครองที่ดิน และจะต้องใช้
ประโยชน์ตรงตามเงื่อนไขของพื้นที่
- ข้อเสนอเรืองระบบกรรมสิทธิ์ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การเปลี่ยนแปลงการครอบครองการ
ั
เปลี่ยนมือ และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ในปจจุบันระบบกรรมสิทธิ์ที่มีหลากหลายทําให้เกิดความเหลื่อมลํ้า
และนําไปสู่การละเมิดสิทธิของเกษตรกร และยังส่งผลถึงการใช้ที่ดินปิดประเภท และที่ดินเปลี่ยนได้
โดยง่าย จึงเสนอให้บูรณาการระบบกรรมสิทธิ์ การเปลี่ยนมือ และการใช้ประโยชน์เข้าด้วยกัน ดังนี้
1. ให้มีระบบกรรมสิทธิ์ที่ดินระบบเดียว ที่เรียกว่า “โฉนด” หรือ ชื่ออื่น
2. โฉนดจะต้องมีเงื่อนไขประกอบในการใช้ประโยชน์ที่ดินที่แตกต่างกันตามสภาพเศรษฐกิจ
สังคม วัฒนธรรม ระบบนิเวศของพื้นที่นั้น ๆ
ั
3. การเปลี่ยนมือ ถือครองที่ดิน เสนอให้มี 2 ระบบ คือ 1) สิทธิของปจเจกที่จะถือครองและใช้
ประโยชน์ที่ดินตามเงื่อนไขตามเงื่อนไขในเอการสิทธินั้น ๆ 2) ความเห็นชอบของชุมชนที่จะยินยอมให้
บุคคลใช้ที่ดินประกอบอาชีพที่ไม่ขัดต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสร้างความเดือดร้อน ผลกระทบให้กับ
ชุมชน
10‐5

