Page 230 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 230
ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี
ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ ความเห็นของคณะผู้วิจัย
พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
ข้อเสนอแนะของผู้
ความเห็นผู้ตรวจสอบ ความเห็น ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
ตรวจสอบ
1.ผู้ร้องร้องเรียนว่าถูก จนท.ตร. สภ.ท่าชนะท าการตรวจค้นในที่ เห็นว่าการค้นของเจ้าหน้าที่ต ารวจ ให้ ตร.แต่งตั้ง 1. ตํารวจใช้อํานาจในการค้นโดย 1. การค้น 1.1 ขาดจิตสํานึก
สาธารณะโดยไม่เป็นธรรมโดยได้กระท าในลักษณะข่มขู่ผู้ร้อง เป็นการกลั่นแกล้งผู้ร้องและได้ท า คณะกรรมการ ไม่มีหมาย กลั่นแกล้งผู้ร้อง ในการสืบสวน
จ านวน 5 ครั้ง กล่าวคือทั้ง 5ครั้ง เป็นการค้นและได้ข่มขู่โดยไม่พบ กับผู้ร้องหลายครั้งในที่สาธารณะ ตรวจสอบข้อเท็จจริง 2. ตํารวจค้นถึง 5 ครั้ง โดยไม่พบ แสวงหา
สิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตาม จนท.ตร. ภายใน 30 วัน สิ่งผิดกฎหมาย น่าจะเป็นการกลั่น ข้อเท็จจริงและ
2.จากการตรวจสอบพบว่าในการค้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ต ารวจได้ค้น กติกาว่าระหว่างประเทศว่าด้วย และรายงานผลให้คณะ แกล้งจริง ๆ ทั้งยังไม่มีเหตุอันควร หลักฐาน
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ส่วนการข่มขู่นั้นไม่พบพยานหลักฐาน สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กรรมการฯทราบด้วย ตาม ป.วิ.อ. ม. 93 และละเมิดสิทธิ
แต่อย่างใด ข้อที่ 17และรัฐธรรมนูญ2540มาตรา ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
31 สิทธิพลเมือง และสิทธิทางการ
เมืองข้อที่ 17 และรัฐธรรมนูญ 2540
มาตรา 31
1.เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2544ผู้ร้องได้ถูกท าร้ายร่างกาย และได้ไปแจ้ง ทางพันต ารวจตรีวิชิตชัย วิงพัฒน์ ให้ ตร. ตั้ง พนักงานสอบสวนคนเก่าปล่อย 1. การสอบสวน 1.1 ขาดจิตสํานึก
ความพนักงานสอบสวนได้ส่งผู้ร้องไปตรวจร่างกาย พงส. ผู้รับคดีแม้ว่าจะมีการ คณะกรรมการ ปละละเลยต่อคดีที่ตนเอง ในการรวบรวม
2.วันต่อมาผู้ร้องได้เข้าแจ้งความและพนักงานสอบสวนได้รับค า สอบสวนอยู่บ้างแต่ไม่ได้พยายามที่ สอบสวนทางวินัยแก่ รับผิดชอบไม่ส่งสํานวนให้กับ พยานหลักฐาน
ร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 5495/2544 จะน าผู้กระท าความผิดมาลงโทษ ต ารวจที่ได้กระท าผิด พนักงานสอบสวนคนใหม่ทําให้คดี
3.พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่ได้ด าเนินการเกี่ยวกับคดีจนได้ อีกทั้งผู้ต้องหาไม่ได้หนีไปไหนและ ภายใน 30 วันและให้ ไม่ได้รับการสอบสวนด้วยความ
ย้ายไปอยู่ที่อื่นโดยค าสั่งย้ายลงวันที่ 11 ก.พ. 2547 เมื่อถูกย้ายไปด ารงต าแหน่งที่อื่นยัง ท าหนังสือเวียนแจ้งการ รวดเร็วต่อเนื่องและเป็นธรรม ตาม
4.ต่อมาเมือ่วันที่ 28 ก.ย. 2548 ทางสถานีต ารวจได้แต่งตั้งพงส.คน ไม่ยอมส่งมอบส านวนการ ด าเนินการตรวจสอบ ป.วิ.อ. ม. 130
ใหม่มารับผิดชอบในคดีและได้มีความเห็นสั่งฟ้องและน าส านวน สอบสวนให้ พงส. คนใหม่ ของคณะกรรมการ
พร้อมตัวผู้ต้องหาส่งไปยังอัยการในเวลาต่อมา รับผิดชอบกับรอจนคณะกรรมการ ดังกล่าวให้
ฯได้ท าหนังสือมาตรวจสอบถึงได้ ผู้บังคับบัญชาและ
ส่งมอบส านวนให้พงส. คนใหม่มา พนักงานสอบสวน
รับผิดชอบ ทราบโดยปกปิดชื่อ
ผู้กระท าความผิด