Page 12 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 12
บทที่ 1
บทน า
1.1 ที่มาและความส าคัญของปัญหาที่ท าการวิจัย
ในปัจจุบัน สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่มีความส าคัญมาก โดยองค์การสหประชาชาติได้
มีมติรับรอง และประกาศใช้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2491
ขณะที่ประเทศไทยนั้น ได้มีการบัญญัติเรื่องสิทธิมนุษยชน ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ.2540 และในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ด้วยค าว่า “ศักดิ์ศรีความเป็น
มนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง ” การคุ้มครองสิทธิ
ของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมนั้น รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน มีบทบัญญัติที่ให้หลักประกัน
เกี่ยวกับคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายมาตรา อาทิ มาตรา 29 วรรคแรก ได้บัญญัติ
รับรองสิทธิและเสรีภาพไว้ว่า “การจ ากัดสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะ
กระท ามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอ านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้
ก าหนดไว้และเท่าที่จ าเป็นเท่านั้น และจะกระทบกระเทือนสาระส าคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้”
ดังนั้นแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม จึงต้องให้ความเคารพ
และมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิพื้นฐานของประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐจะละเมิดหรือริดรอน สิทธิเสรีภาพ
ของประชาชนไม่ได้หากกฎหมายไม่ให้อ านาจไว้ แต่ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต ารวจ ซึ่งเป็น
ต้นธารของกระบวนการยุติธรรม มักมีปัญหาการถูกกล่าวหาอยู่เนืองๆ ว่าการ ปฏิบัติตามอ านาจ
หน้าที่ อาทิ การจับ การค้น การควบคุม และการสืบสวนสอบสวน ไม่ค านึงถึงหลักประกัน ในการ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชน ตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ ท าให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดย
ไม่จ าเป็น และอาจท าให้สาระส าคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญถูกกระทบกระเทือน
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต ารวจหลายกรณีในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่ามี
การละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นการกระท าในลักษณะของ State Crime หรือ การหาย
สาบสูญโดยไม่ปรากฏร่องรอย อาทิ การเสียชีวิตจ านวนมากของผู้คนในช่วงเวลาการประกาศ
สงคราม ยาเสพติด หรือการเสียชีวิต ของผู้ต้องหา ระหว่างการถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ต ารวจ