Page 11 - การรวบรวมและวิเคราะห์เปรียบเทียบรายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนของอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำ ชายฝั่ง แร่และสิ่งแวดล้อม ในอนุคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (พ.ศ.2544-2550)
P. 11

สิ่งแวดล้อม (EIA) นอกจากนี้มักพบว่าพื้นที่ก่อสร้างท่าเทียบเรือเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ และเป็นพื้นที่ที่
                   ชาวประมงพื้นบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันอยู่ในบริเวณที่มีทรัพยากรทางทะเล และความหลากหลายทางชีวภาพ
                   สูง ซึ่งผู้ใช้ประโยชน์ควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เนื่องจากการอนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ในทะเล

                   ที่ประชาชนใช้ร่วมกันแก่เอกชนรายใดรายหนึ่ง เป็นการกระทบกระเทือนถึงสิทธิในการท ามาหากินของประมง
                   พื้นบ้าน ท าให้ประชาชนถูกลิดรอนสิทธิจากวิถีทางแห่งการยังชีพของตน
                                                                                                     ั่
                              2)   การสร้างเขื่อน หรือก าแพงกันคลื่นทุกขนาดและทุกประเภท ทั้งประเภทที่ขนานกับชายฝง
                   และที่ยื่นออกไปในทะเล ยังไม่ถูกประกาศให้ต้องมีการจัดท ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
                                                                  ั่
                   ทั้งที่แทบทุกแห่งล้วนสร้างผลกระทบให้เกิดการกัดเซาะชายฝงในบริเวณอื่นๆอย่างรุนแรงทั้งสิ้น
                                3)  ท่าจอดเรือยอร์ช (เรือส าราญกีฬา) จะมีการออกแบบให้ใช้พื้นที่ทะเลในขนาดกว้าง ส่งผล

                   กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับท่าเทียบเรือซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า แต่ไม่อยู่ใน
                   เงื่อนไขให้มีการจัดท ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)  และทุกแห่งขออนุญาตสร้างเป็นสิ่ง
                   ล่วงล ้าลงในทะเล โดยขออนุญาตเพียงกรมขนส่งทางน ้าและพาณิชยนาวี และจัดท ารายงานวิเคราะห์
                                                                                      ั
                   ผลกระทบเบื้องต้นโดยพิจารณาจากคณะกรรมการระดับจังหวัดซึ่งไม่สามารถแก้ไขปญหาความขัดแย้งกับ
                   พื้นที่ที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน  ซึ่งผู้ใช้ประโยชน์ควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เนื่องจากการ
                   อนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ในทะเลที่ประชาชนใช้ร่วมกัน แก่เอกชนรายใดรายหนึ่ง เป็นการ
                   กระทบกระเทือนถึงสิทธิในการท ามาหากินของประมงพื้นบ้าน ท าให้ประชาชนถูกลิดรอนสิทธิจากวิถีทางแห่ง
                   การยังชีพของตน
                                4)   ชุมชนประมงพื้นบ้านยังขาดการคุ้มครองจากรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอย่าง
                   เด็ดขาดและจริงจัง ต่อกรณีการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการท าประมงที่มีอยู่เดิม ต่อกรณีการท าประมง
                                                                     ั่
                                         ั
                   ในเขตหวงห้าม ท าให้เกิดปญหา เรืออวนรุน เรืออวนลาก เรือปนไฟปลากะตัก เรือคราดหอย และอุปกรณ์
                                                                          ั
                   ประมงที่ท าลายล้างอื่น เข้าในพื้นที่ประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังพบปญหาการเลือกปฏิบัติต่างๆต่อชาวเล
                   กลุ่มอูรักลาโว้ย มอแกน และมอแกลน ซึ่งเป็นกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านดั้งเดิม
                                                                                           ่
                                 5)    พบการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินริมทะเล และพื้นที่ใกล้เคียง ในพื้นที่เคยเป็นปาชายเลน อย่าง
                   ไม่ถูกต้องในหลายกรณี ส่งผลให้มีการพัฒนาโครงการและเกิดข้อพิพาทกับชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ก่อน

                                  6)   การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยการถมทะเล บริเวณริมทะเลและกลางทะเล ที่โดยหลักการ
                   แล้วเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนมีสิทธิใช้ประโยชน์ร่วมกัน


                          กรณีทรัพยากรธรณี

                                 1)    เหมืองหินอุตสาหกรรมหลายแห่งอนุญาตให้มีการเปลี่ยนชนิดแร่จากแร่ชนิดอื่น หรือ
                   เพิ่มเติมชนิดแร่ มาเป็น แร่หินอุตสาหกรรม โดยไม่ต้องมีการจัดท ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
                   (EIA) เพิ่มเติม และขาดกระบวนการมีส่วนร่วมจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและข้างเคียง (ทั้งสถาน
                   ที่ตั้งเหมือง โรงโม่หิน และเส้นทางการขนส่ง)  นอกจากนี้ยังพบว่าหลังจากเลิกประกอบกิจการเหมืองหิน

                   อุตสาหกรรม มาตรการที่ก าหนดให้ปรับปรุงทัศนอุดจาดตามเงื่อนไขท้ายประทานบัตรเดิมยังไม่เพียงพอ และ
                       ั
                   พบปญหาในการเว้นระยะห่างระหว่างพื้นที่ประกอบกิจการเหมืองหินอุตสาหกรรมและโรงโม่หินกับแหล่ง
                   โบราณสถาน โบราณวัตถุ
                                 2)        เหมืองแร่ประเภทอื่นนอกจากเหมืองหินอุตสาหกรรม อาจมีการประกอบกิจการไม่
                   เป็นไปตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต หรือเงื่อนไขท้ายประทานบัตร เมื่อมีผลกระทบหรืออันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16