Page 154 - พระมหากษัตริย์กับงานสิทธิมนุษยชน
P. 154
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยึดมั่นในพระธรรมของพระพุทธศาสนา ทรงเชื่อมั่นว่า
“ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมจะมีชีวิตและกิจการงานที่ประกอบด้วยความสว่าง สะอาด และสงบ” นอกจาก
จะยึดมั่นในธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัดแล้วยังทรงเชื่อมั่นในคำาสั่งสอนของศาสนาอื่นที่ทรง
เป็นองค์อุปถัมภกด้วย จึงไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้ทรงกระทำาสิ่งใดที่เป็นการขัดต่อหลักธรรมของศาสนา
ไม่ว่าจะพิจารณาจากศาสนาใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นองค์อุปถัมภกของทุกศาสนาด้วย
ความสุจริตพระทัย พระองค์เสด็จไปทรงเป็นประธานในกิจกรรมสำาคัญๆ ของศาสนาอื่นโดยพระองค์
เต็มพระราชหฤทัย พระบรมราโชวาทที่สะท้อนให้เห็นถึงพระราชหฤทัยในเรื่องจิตใจมั่นคงในความสุจริต
คือ พระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ผู้ที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระตำาหนักจิตรลดา
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ ตอนหนึ่ง ความว่า
“นอกจากจะอาศัยความรู้ความสามารถในทางวิชาการแล้ว แต่ละบุคคลยัง
จะต้องมีรากฐานทางจิตใจที่ดี คือ ความหนักแน่นมั่นคงในสุจริตธรรม และความมุ่งมั่น
ที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้จนเสร็จ ทั้งต้องมีกุศโลบายหรือวิธีการอันแยบคายในการปฏิบัติงาน
ประกอบกันพร้อมด้วย จึงจะสัมฤทธิ์ผลที่แน่นอน และบังเกิดประโยชน์ อันยั่งยืน
ทั้งแก่ตนเองและแผ่นดิน”
เมื่อพิจารณาทศพิธราชธรรมทั้ง ๑๐ ข้อแล้ว จะเห็นได้ว่า ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของ
ประเทศไทยนั้น พระมหากษัตริย์ไทยได้ทรงกำาหนดแนวทางปฏิบัติพระองค์ไว้ในทางที่ล้วนเป็นคุณต่อ
ประเทศ และอำานวยสุขแก่พสกนิกรประชาชนคนไทยทั้งสิ้น ถ้าจะกล่าวถึงการมีสิทธิ พระมหาษัตริย์ไทย
ทรงปฏิบัติเพื่อให้พสกนิกรได้รับสิทธิมากกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่พูดกันเป็นสากล
เพราะสิทธิที่พระมหากษัตริย์ไทยพระราชทานมาแต่โบราณกาลนั้นได้พระราชทานมาด้วยพระเมตตา
และด้วยพระราชหฤทัยที่ปรารถนาให้พสกนิกรมีความสุขอย่างถ้วนทั่ว ประเทศชาติสงบสุข พระบาท
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงตั้งคณะที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นคณะ
องคมนตรีในพุทธศักราช ๒๔๙๒ เพื่อที่จะให้คณะองคมนตรีได้สอดส่องเหตุการณ์ที่เป็นความเดือดร้อน
ของราษฎรมากราบบังคมทูลให้ทรงทราบ ในสมัยปัจจุบันพระมหากษัตริย์ของไทยทรงอยู่ภายใต้
รัฐธรรมนูญ ไม่มีสิทธิและหน้าที่บริหารประเทศได้อย่างในสมัยที่ปกครองด้วยระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราช แต่พระองค์ยิ่งทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า และได้พระราชทานความ
ช่วยเหลืออย่างสุดกำาลัง พระองค์ได้พระราชทานขวัญและกำาลังใจให้ทุกคนมีมานะที่จะต่อสู้กับอุปสรรค
และภัยพิบัติต่างๆ ด้วยสติ ด้วยความรอบคอบ และด้วยความรู้เท่าทันถึงเหตุที่ทำาให้เกิดทุกข์นั้นๆ
ทรงปลอบขวัญให้กำาลังใจผู้ประสบทุกข์ยาก ทรงพระราชดำาริหาวิธีการต่างๆ เพื่อปลดเปลื้องความทุกข์
ของพสกนิกรในทุกกรณี พระองค์ไม่เคยทรงปล่อยให้พสกนิกรของพระองค์ต้องเผชิญความทุกข์ยาก
โดยไม่ได้รับการเหลียวแล ทรงถือว่าความยากจนของราษฎรเป็นศัตรูที่พระองค์จะต้องทรงต่อสู้
เพื่อเอาชนะให้จงได้ พระองค์ทรงรักราษฎร ทรงรักประเทศและทรงมุ่งมั่นทำานุบำารุงและพัฒนา
ประเทศชาติให้มั่นคงถาวร พระองค์ทรงปฏิบัติและวางพระองค์เสมือนเป็นคนไทยคนหนึ่ง มีสิทธิและ
หน้าที่เท่ากับคนไทยทุกคน มิทรงถือพระองค์ และทรงปฏิบัติภารกิจส่วนรวมทำางานเพื่อความเจริญ
154 พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น