Page 82 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 82
ครั้งนั้นได้ โดยให้มีการตรวจสอบในวันนั้นต่อไป และให้บันทึกเหตุดังกล่าวไว้ในส านวนด้วย ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิ
คู่กรณีหรือพยานที่จะน าทนายความหรือที่ปรึกษาเข้าร่วมการตรวจสอบครั้งต่อไป
ในการให้ถ้อยค าของคู่กรณีหรือพยานฝ่ายหนึ่ง คู่กรณีหรือพยานอีกฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งทนายความ
หรือที่ปรึกษาของฝ่ายดังกล่าวจะเข้ารับฟังไม่ได้ เว้นแต่คณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่
จะก าหนดเป็นอย่างอื่น
ข้อ ๒๗ ในการรับฟังถ้อยค าของคู่กรณีหรือพยานซึ่งเป็นเด็กหรือเยาวชน คณะกรรมการ กรรมการ
หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ อาจจัดให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมในการรับฟังถ้อยค าด้วย
ตามสมควรแก่กรณี
ข้อ ๒๘ ในการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง หากมีกรณีที่จะต้องขอหมายของศาล
เพื่อเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ซึ่งมิได้อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าของ
หรือผู้ครอบครองไม่ยินยอม ให้กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๕ วรรคสาม เสนอ
คณะกรรมการเพื่อพิจารณาและมอบอ านาจให้กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น เป็นผู้ยื่นค าร้อง
หรือด าเนินกระบวนการพิจารณาใด ๆ เกี่ยวกับการขอออกหมายค้นต่อศาล ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่ก าหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
การมอบอ านาจตามวรรคหนึ่ง ให้จัดท าเป็นหนังสือตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด
ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ลงนามในหนังสือมอบอ านาจก็ได้
ข้อ ๒๙ ในการเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ตามข้อ ๒๘ ให้ด าเนินการต่อหน้าผู้ครอบครอง
หรือดูแลสถานที่ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง ในกรณีที่หาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ ก็ให้ด าเนินการต่อหน้าบุคคลอื่น
อย่างน้อยสองคน ซึ่งได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน ในการนี้ ให้ผู้ครอบครอง หรือดูแลสถานที่ หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง
ให้ความร่วมมือเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปโดยสะดวก
ข้อ ๓๐ ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งพยานหลักฐาน
ภายในก าหนดระยะเวลาตามข้อ ๒๓ วรรคสาม หรือกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มาให้ถ้อยค า
ต่อคณะกรรมการ กรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๒๔ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้อง
รายงานต่อคณะกรรมการพร้อมความเห็นว่า ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน หรือถ้อยค าของบุคคลหรือ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว มีความจ าเป็นต้องใช้ประกอบการพิจารณาหรือไม่เพียงใด ทั้งนี้ เพื่อประกอบ
การพิจารณาออกค าสั่งให้บุคคลหรือหน่วยงานนั้นด าเนินการตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)
ค าสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการก าหนด
ในกรณีที่บุคคลหรือหน่วยงานไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ วรรคสอง (๑)
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องรายงานต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
ต่อไป
เพื่อให้การตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นไปโดยไม่ล่าช้า หากคณะกรรมการพิจารณา
ตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอที่จะใช้ประกอบการพิจารณา
ต่อไปได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบค าร้องด าเนินการตรวจสอบและจัดท ารายงานผลการตรวจสอบ
ต่อไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่
71