Page 72 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 72

๖


                         ข้อ ๒๔ นอกจากลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ

                  สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ บุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อตามข้อ ๒๓ จะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
                  ดังต่อไปนี้

                         (๑) เป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
                         (๒) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่ขององค์กรเอกชน หรือเป็นสมาชิก
                  ของสภาวิชาชีพที่ได้รับการจดแจ้ง

                         (๓) เป็นผู้มีสุขภาพที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                         (๔) ไม่เป็นผู้แทนขององค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพอื่นในขณะเดียวกัน

                         (๕) ไม่เคยถูกคณะกรรมการวินิจฉัยว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน
                         การเสนอชื่อตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอก่อนมีการประชุมตามข้อ ๒๕ ไม่น้อยกว่าเจ็ดวันท าการ
                  ทั้งนี้ ตามแบบที่ส านักงานก าหนด


                         ข้อ ๒๕ เมื่อมีกรณีที่จะต้องสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐

                  มาตรา ๑๑ ให้ส านักงานจัดให้มีการประชุมผู้แทนองค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพแต่ละสภาตามข้อ ๒๓
                  แล้วแต่กรณีเพื่อเลือกกันเองให้เป็นกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายใน

                  สี่สิบห้าวันนับแต่วันที่มีกรณีที่ต้องสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                  โดยให้เลขาธิการหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายด าเนินการประชุม
                         ในการจัดการประชุมตามวรรคหนึ่ง ให้ส านักงานค านึงถึงการอ านวยความสะดวกทางกายภาพ

                  แก่คนพิการ พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการน าเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกกันเองที่หลากหลาย

                         ข้อ ๒๖ ในการประชุมตามข้อ ๒๕ จะต้องมีผู้แทนตามข้อ ๒๓ มาร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง

                  จึงจะเป็นองค์ประชุม
                         ในการประชุมตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้แทนที่ประสงค์จะเป็นกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชน

                  แห่งชาติแสดงแนวทางในการท าหน้าที่ของกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                  ก่อนการลงคะแนนเสียง
                         ให้ผู้แทนตามวรรคหนึ่งแต่ละคน มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกผู้แทนที่ประสงค์จะเป็นกรรมการ

                  สรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เท่ากับจ านวนของผู้แทนองค์กรเอกชนหรือของผู้แทนสภาวิชาชีพ
                  แต่ละสภาตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

                  พ.ศ. ๒๕๖๐ ก าหนดไว้ แล้วแต่กรณี โดยวิธีการลงคะแนนลับ
                         ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามวรรคสาม ต้องเป็น
                  ผู้ที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดตามล าดับของผู้แทนองค์กรเอกชนหรือของผู้แทนสภาวิชาชีพแต่ละสภา

                  แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
                         ในกรณีที่ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดคนใดได้คะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้แทนองค์กรเอกชนหรือ

                  ของผู้แทนสภาวิชาชีพแต่ละสภา ให้ที่ประชุมลงคะแนนเสียงเลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดห้าล าดับแรก
                  จนกว่าจะได้คะแนนสูงสุดไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
                         หากผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ที่ประชุมลงคะแนนเสียงเลือกผู้ที่ได้คะแนน

                  เท่ากันจนกว่าจะได้ผู้ได้คะแนนสูงสุดตามวรรคสาม ตามจ านวนที่ยังขาดอยู่
                         ให้ส านักงานส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกตามวรรคสอง ให้ส านักงานเลขาธิการวุฒิสภาโดยเร็ว


                                                                                                                  61
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77