Page 461 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 461

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มำตรำ ๖๓/๑๕

                  แห่งพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ

                  วิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ก ำหนดให้หน่วยงำนของรัฐสำมำรถยื่นค ำขอ
                  ฝ่ำยเดียวต่อศำลเพื่อให้ศำลออกหมำยบังคับคดีตั้งเจ้ำพนักงำนบังคับคดีเพื่อบังคับให้เป็นไปตำมค ำสั่ง

                  ทำงปกครองที่ก ำหนดให้ช ำระเงินได้ และกำรที่จะน ำหลักกำรนี้ไปใช้บังคับแก่หน่วยงำนอื่นของรัฐที่มิใช่

                  กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนรำชกำรที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นและมีฐำนะเป็นกรม รำชกำรส่วนภูมิภำคและ

                  รำชกำรส่วนท้องถิ่นนั้น จะต้องก ำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้น เพื่อให้กำรบังคับตำมค ำสั่งทำงปกครอง

                  ที่ก ำหนดให้ช ำระเงินของส ำนักงำนคณะกรรมกำรกิจกำรกระจำยเสียง กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำร
                  โทรคมนำคมแห่งชำติ มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น สมควรก ำหนดให้ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกิจกำรกระจำยเสียง

                  กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำรโทรคมนำคมแห่งชำติ เป็นหน่วยงำนของรัฐที่สำมำรถขอให้เจ้ำพนักงำน

                  บังคับคดีด ำเนินกำรบังคับทำงปกครองได้ และโดยที่ปัจจุบันได้มีกำรก ำหนดให้ส ำนักงำนกำรตรวจเงิน

                  แผ่นดินเป็นหน่วยงำนของรัฐตำมมำตรำ ๖๓/๑๕ ด้วยแล้ว สมควรปรับปรุงโดยน ำมำรวมอยู่ในกฎกระทรวง

                  ฉบับเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในกำรตรวจสอบและอ้ำงอิงของเจ้ำหน้ำที่และประชำชนทั่วไป จึงจ ำเป็นต้อง
                  ออกกฎกระทรวงนี้


                  กฎกระทรวงก ำหนดหน่วยงำนของรัฐที่สำมำรถขอให้เจ้ำพนักงำนบังคับคดีด ำเนินกำรบังคับทำงปกครอง

                                       ๓
                  (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔
                         หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มำตรำ ๖๓/๑๕ แห่ง

                  พระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติ

                  รำชกำรทำงปกครอง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ก ำหนดให้หน่วยงำนของรัฐสำมำรถยื่นค ำขอฝ่ำยเดียวต่อศำล
                  เพื่อให้ศำลออกหมำยบังคับคดีตั้งเจ้ำพนักงำนบังคับคดีเพื่อบังคับให้เป็นไปตำมค ำสั่งทำงปกครองที่ก ำหนด

                  ให้ช ำระเงินได้และกำรที่จะน ำหลักกำรนี้ไปใช้บังคับแก่หน่วยงำนอื่นของรัฐที่มิใช่กระทรวง ทบวง กรม

                  หรือส่วนรำชกำรที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นและมีฐำนะเป็นกรม รำชกำรส่วนภูมิภำคและรำชกำรส่วนท้องถิ่นนั้น

                  จะต้องก ำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้น เพื่อให้กำรบังคับตำมค ำสั่งทำงปกครองที่ก ำหนดให้ช ำระเงินของ

                  ส ำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร ส ำนักงำนศำลยุติธรรม ส ำนักงำนผู้ตรวจกำรแผ่นดิน ส ำนักงำน
                  คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ ส ำนักงำนอัยกำรสูงสุด ส ำนักงำนบริหำรและพัฒนำองค์ควำมรู้

                  (องค์กำรมหำชน) กองทุนพัฒนำสื่อปลอดภัยและสร้ำงสรรค์ ศูนย์มำนุษยวิทยำสิรินธร (องค์กำรมหำชน)

                  หอภำพยนตร์ (องค์กำรมหำชน) ศูนย์คุณธรรม (องค์กำรมหำชน) ส ำนักงำนเลขำธิกำรวุฒิสภำ สถำบันวิจัย

                  และพัฒนำพื้นที่สูง (องค์กำรมหำชน) ส ำนักงำนส่งเสริมวิสำหกิจขนำดกลำงและขนำดย่อม และส ำนักงำน

                  คณะกรรมกำรกำรแข่งขันทำงกำรค้ำมีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น สมควรก ำหนดให้หน่วยงำนดังกล่ำวเป็น
                  หน่วยงำนของรัฐที่สำมำรถขอให้เจ้ำพนักงำนบังคับคดีด ำเนินกำรบังคับทำงปกครองได้ จึงจ ำเป็นต้อง

                  ออกกฎกระทรวงนี้





                         ๓  รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๘/ตอนที่ ๒๕ ก/หน้ำ ๓/๗ เมษำยน ๒๕๖๔

                                                                                                                450
   456   457   458   459   460   461   462   463   464   465   466