Page 459 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 459

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชกฤษฎีกำฉบับนี้ คือ เนื่องจำกกฎหมำยว่ำด้วยควำมรับผิด

                  ทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่ได้ก ำหนดหลักกฎหมำยเรื่องควำมรับผิดทำงละเมิดไว้แตกต่ำงจำกหลักในประมวล

                  กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภำพในกำรปฏิบัติหน้ำที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมและเกิดควำม
                  เป็นธรรมแก่เจ้ำหน้ำที่ และกำรจะน ำหลักกำรนี้ไปใช้บังคับกับหน่วยงำนใดที่มิใช่รำชกำรส่วนกลำง รำชกำร

                  ส่วนภูมิภำค รำชกำรส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสำหกิจที่จัดตั้งโดยระรำชบัญญัติหรือพระรำชกฤษฎีกำนั้น จะต้อง
                  ก ำหนดในพระรำชกฤษฎีกำอีกชั้นหนึ่ง สมควรก ำหนดหน่วยงำนของรัฐบำงแห่งเป็นหน่วยงำนของรัฐตำมกฎหมำย

                  ว่ำด้วยควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่ เพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ของรัฐอยู่ในระบบควำมรับผิดอันเดียวกัน จึงจ ำเป็น
                  ต้องตรำพระรำชกฤษฎีกำนี้



                  พระรำชกฤษฎีกำก ำหนดหน่วยงำนของรัฐตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่ พ.ศ.

                                               ๔
                  ๒๕๓๙ (ฉบับที่ ๒๙) พ.ศ. ๒๕๖๒
                         มำตรำ ๒ พระรำชกฤษฎีกำนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป

                         หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชกฤษฎีกำฉบับนี้ คือ โดยที่กองทุนพัฒนำสื่อปลอดภัย
                  และสร้ำงสรรค์ ส ำนักงำนกำรตรวจเงินแผ่นดิน ส ำนักงำนคณะกรรมกำรสุขภำพแห่งชำติ และส ำนักงำน

                  คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ มิได้มีฐำนะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนรำชกำรที่เรียกชื่อ

                  อย่ำงอื่นและมีฐำนะเป็นกรม รำชกำรส่วนภูมิภำค รำชกำรส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสำหกิจที่ตั้งขึ้นโดย

                  พระรำชบัญญัติหรือพระรำชกฤษฎีกำ หำกแต่ได้รับกำรจัดตั้งให้มีฐำนะเป็นหน่วยงำนของรัฐประเภท

                  หนึ่งตำมพระรำชบัญญัติกองทุนพัฒนำสื่อปลอดภัยและสร้ำงสรรค์ พ.ศ. ๒๕๕๘ และพระรำชบัญญัติ
                  สุขภำพแห่งชำติ พ.ศ. ๒๕๕๐ และเป็นส่วนรำชกำรที่เป็นหน่วยงำนอิสระตำมรัฐธรรมนูญและมีฐำนะ

                  เป็นนิติบุคคล ตำมที่บัญญัติไว้ในพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยกำรตรวจเงินแผ่นดิน

                  พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระรำชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ

                  พ.ศ. ๒๕๖๐ ตำมล ำดับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกำรก ำหนดให้เป็นหน่วยงำนของรัฐตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิด

                  ทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ และโดยที่พระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่
                  พ.ศ. ๒๕๓๙ บัญญัติให้กำรก ำหนดให้หน่วยงำนอื่นของรัฐเป็นหน่วยงำนของรัฐตำมกฎหมำยดังกล่ำว

                  ต้องตรำเป็นพระรำชกฤษฎีกำ ดังนั้น เพื่อให้เจ้ำหน้ำที่ของกองทุนพัฒนำสื่อปลอดภัยและสร้ำงสรรค์

                  เจ้ำหน้ำที่ของส ำนักงำนกำรตรวจเงินแผ่นดิน เจ้ำหน้ำที่ของส ำนักงำนคณะกรรมกำรสุขภำพแห่งชำติ

                  และเจ้ำหน้ำที่ของส ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติซึ่งปฏิบัติหน้ำที่โดยสุจริตได้รับ
                  ควำมคุ้มครองตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ จึงจ ำเป็นต้องตรำ

                  พระรำชกฤษฎีกำนี้







                         ๔  รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๑๑๕ ก/หน้ำ ๑๗/๑ พฤศจิกำยน ๒๕๖๒



                                                                                                                448
   454   455   456   457   458   459   460   461   462   463   464