Page 345 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567)
P. 345

๔


                           (๑)  หากรถประจ าต าแหน่งสูญหาย  ให้ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งจัดท ารายงานการสูญหาย

                  โดยใช้แบบ  ร.๔  ท้ายระเบียบนี้

                           (๒)  หากรถประจ าต าแหน่งเกิดความเสียหาย  ให้ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งจัดท ารายงานความ

                  เสียหายที่เกิดขึ้น  โดยใช้แบบ  ร.๕  ท้ายระเบียบนี้

                           ข้อ  ๑๙ ในกรณีที่รถประจ าต าแหน่งคันที่สูญหายหรือเกิดความเสียหายเป็นรถที่ได้ท าสัญญา

                  ประกันภัยไว้  ความรับผิดชอบของผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์  ดังต่อไปนี้

                           (๑)  หากรถประจ าต าแหน่งสูญหาย  ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

                  ในส่วนที่นอกเหนือจากที่ส านักงานได้รับตามสัญญาประกันภัยเฉพาะกรณีที่การสูญหายนั้นเกิดจาก

                  ความจงใจหรือประมาทเลินเล่อของตน  แต่ถ้าการสูญหายนั้นเกิดขึ้นในระหว่างที่ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่ง
                  อนุญาตให้บุคคลใดน ารถประจ าต าแหน่งไปใช้นอกเหนือจากหน้าที่ปกติประจ า  ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่ง

                  ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแม้ด้วยเหตุสุดวิสัย

                           (๒)  หากรถประจ าต าแหน่งเกิดความเสียหาย  ให้ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งหรือเจ้าหน้าที่ขับรถ

                  ติดต่อกับผู้รับประกันภัยในนามของส านักงาน  เพื่อซ่อมแซมรถประจ าต าแหน่งให้คงสภาพดีตามเดิม

                  ส่วนในกรณีที่ไม่อาจให้ผู้รับประกันภัยด าเนินการซ่อมแซมได้  ให้ผู้นั้นรับผิดชดใช้ในส่วนที่นอกเหนือจาก
                  ที่ส านักงานได้รับตามสัญญาประกันภัยเฉพาะกรณีที่ความเสียหายนั้นเกิดจากความจงใจหรือประมาท

                  เลินเล่อของตน  แต่ถ้าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ขับขี่รถประจ าต าแหน่ง  ที่มิใช่

                  ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งหรือเจ้าหน้าที่ขับรถ  หรือมิใช่อยู่ในระหว่างการควบคุมการใช้รถของผู้ใช้รถ

                  ประจ าต าแหน่ง  ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแม้ด้วยเหตุสุดวิสัย


                           ข้อ  ๒๐ ในกรณีที่รถประจ าต าแหน่งคันที่สูญหายหรือเกิดความเสียหายมิได้ท าสัญญา

                  ประกันภัยไว้  ให้น าความในข้อ  ๑๙  มาใช้บังคับกับการพิจารณาความรับผิดของผู้ใช้รถประจ าต าแหน่ง
                  โดยอนุโลม

                           ในกรณีที่ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะความผิดของบุคคลภายนอก  ให้ส านักงานเป็นผู้เรียกร้อง


                  ค่าสินไหมทดแทนเพื่อเป็นค่าซ่อมแซมจากบุคคลภายนอก

                           ข้อ  ๒๑ ในกรณีที่ส านักงานมีความจ าเป็นต้องใช้รถประจ าต าแหน่งคันที่เสียหายซึ่งอยู่ใน

                  ระหว่างการด าเนินการหาตัวผู้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน  ให้เลขาธิการพิจารณาอนุมัติซ่อมรถคันนั้น

                  โดยเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณไปก่อนได้

                           ข้อ  ๒๒ ผู้ใช้รถประจ าต าแหน่งต้องคืนรถประจ าต าแหน่งให้แก่ส านักงานภายในเจ็ดวันนับแต่
                  วันที่พ้นจากต าแหน่งหรือส่งมอบงาน  แล้วแต่กรณี











                                                                                                                334
   340   341   342   343   344   345   346   347   348   349   350