Page 81 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 81

ข้อ ๑๔ ภายใต้บังคับข้อ ๗ และข้อ ๘ การจดแจ้งองค์กรเอกชนและสภาวิชาชีพให้มีอายุ                                                                               หมวด ๓

               คราวละห้าปี นับแต่วันที่ได้รับการจดแจ้ง                                                                                                                         การอุทธรณ์
                      ก่อนวันครบก าหนดอายุการจดแจ้งไม่น้อยกว่าหกสิบวันแต่ไม่เกินเก้าสิบวัน ให้องค์กรเอกชนหรือ
               สภาวิชาชีพที่มีความประสงค์ต่ออายุการจดแจ้งยื่นค าขอต่อส านักงาน โดยน าวิธีการตามข้อ ๙ วรรคหนึ่ง                                ข้อ ๑๙ องค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพที่ไม่เห็นด้วยกับการไม่รับจดแจ้งตามข้อ ๑๑ วรรคสอง

               มาใช้บังคับโดยอนุโลม ทั้งนี้ ในส่วนขององค์กรเอกชนให้ยื่นผลการด าเนินการตามวัตถุประสงค์                                  หรือไม่เห็นด้วยกับค าสั่งเพิกถอนการจดแจ้งตามข้อ ๑๘ วรรคสอง มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ
                                                                                                ๗
               ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมหรือคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ผ่านมาต่อส านักงานเพื่อพิจารณาด้วย                                ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
                      ให้ส านักงานแจ้งผลการพิจารณาตามวรรคสองให้องค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพทราบ และให้มี                                         วรรคสอง  (ยกเลิก)
                                                                                                                                                       ๘
               อายุการจดแจ้งอีกคราวละห้าปีนับแต่วันครบอายุการจดแจ้งหรือต่ออายุการจดแจ้ง แล้วแต่กรณี                                                  ๙
               ในกรณีไม่ต่ออายุการจดแจ้งให้น าความในข้อ ๑๑ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม                                                       ข้อ ๒๐  การอุทธรณ์ให้น าวิธีการตามข้อ ๙ วรรคหนึ่ง มาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยผู้อุทธรณ์อาจ

                                                                                                                                       ส่งหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามาพร้อมกับค าอุทธรณ์ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ กรณีมีการมอบอ านาจ
                                                         หมวด ๒                                                                        ให้อุทธรณ์ให้แนบหนังสือมอบอ านาจพร้อมกับค าอุทธรณ์ด้วย
                                                  การเพิกถอนการจดแจ้ง
                                                                                                                                              ข้อ ๒๑ ให้ส านักงานตรวจค าอุทธรณ์ว่าครบถ้วนตามข้อ ๒๐ หรือไม่ หากเห็นว่าครบถ้วน

                      ข้อ ๑๕ องค์กรเอกชนที่ได้รับการจดแจ้ง อาจถูกเพิกถอนการจดแจ้งได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง                                ให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับค าอุทธรณ์
               ดังต่อไปนี้                                                                                                                    ในกรณีที่ส านักงานเห็นว่าค าอุทธรณ์ไม่ครบถ้วนตามข้อ ๒๐ ให้แจ้งผู้อุทธรณ์ด าเนินการแก้ไขให้

                      (๑) ความเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยบทบัญญัติของกฎหมายไทยสิ้นสุดลง                                                    แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เมื่อได้รับค าอุทธรณ์ที่ครบถ้วนแล้ว ให้เสนอคณะกรรมการ
                      (๒) ไม่ด าเนินการตามวัตถุประสงค์ตามข้อ ๗ วรรคหนึ่ง (๒) เป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าหนึ่งปี                          พิจารณาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับค าอุทธรณ์ที่แก้ไขแล้ว

                      (๓) กระท าการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อวัตถุประสงค์ขององค์กรเอกชนนั้น                                                           ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ด าเนินการแก้ไขค าอุทธรณ์ภายในก าหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ส านักงานเสนอ
                      (๔) ไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงตราสารหรือข้อบังคับเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ขององค์กรเอกชน                                  คณะกรรมการพิจารณาต่อไป

               ให้ส านักงานทราบภายในเวลาที่ก าหนดตามข้อ ๑๒ โดยไม่มีเหตุสมควร                                                                  ข้อ ๒๒ ในการพิจารณาค าอุทธรณ์ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนค าสั่งของส านักงานได้
                      (๕) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๗                                                                     ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย และอาจมีมติเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงค าสั่งนั้น

                      ข้อ ๑๖ สภาวิชาชีพใดที่กฎหมายจัดตั้งถูกยกเลิก ให้ส านักงานเพิกถอนการจดแจ้งสภาวิชาชีพนั้น                          ไปในทางใดก็ได้ มติของคณะกรรมการให้เป็นที่สุดในชั้นการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ
                                                                                                                                              ให้ส านักงานแจ้งมติของคณะกรรมการให้ผู้อุทธรณ์ทราบภายในเจ็ดวันท าการนับแต่วันที่
                       ข้อ ๑๗ ผู้ใดทราบเหตุตามข้อ ๑๕ หรือข้อ ๑๖ อาจแจ้งเป็นหนังสือต่อส านักงานเพื่อขอให้เพิกถอน                        คณะกรรมการพิจารณาค าอุทธรณ์แล้วเสร็จ และให้ด าเนินการตามผลการพิจารณาค าอุทธรณ์ของ

               การจดแจ้ง                                                                                                               คณะกรรมการโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้น าความในข้อ ๑๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

                      ข้อ ๑๘ เมื่อปรากฏเหตุตามข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ หรือมีผู้แจ้งตามข้อ ๑๗ ให้ส านักงานมีอ านาจ                                                                          หมวด ๔

               ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเพิกถอนการจดแจ้งองค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพได้                                                                               การเลือกกันเองขององค์กรเอกชนและสภาวิชาชีพ
                      ในกรณีที่ส านักงานมีค าสั่งให้เพิกถอนการจดแจ้ง ให้แจ้งผลการเพิกถอนการจดแจ้งต่อองค์กร
               เอกชนหรือสภาวิชาชีพนั้นพร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ด้วย และปิดประกาศไว้ ณ ส านักงาน และ                                      ข้อ ๒๓ องค์กรเอกชนและสภาวิชาชีพที่ได้รับการจดแจ้งแล้ว มีสิทธิและหน้าที่ในการเสนอชื่อ

               เผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศ                                                        ผู้แทนเพื่อเลือกกันเองให้เป็นกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์และ
                      ให้ส านักงานรายงานการเพิกถอนการจดแจ้งองค์กรเอกชนหรือสภาวิชาชีพให้คณะกรรมการ                                      วิธีการที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้

               ทราบโดยเร็ว ทั้งนี้ กรณีที่มีการแจ้งตามข้อ ๑๗ ให้ส านักงานแจ้งผลให้ผู้แจ้งทราบด้วย




                                                                                                                                              ๘  ข้อ ๑๙ วรรคสอง ยกเลิกโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
                                                                                                                                       การจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓
                      ๗  ข้อ ๑๔ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ                    ๙  ข้อ ๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการ
               เงื่อนไขการจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓       จดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓


                     72
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86