Page 223 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 223
ข้อ ๑๒ สมาชิก มี ๒ ประเภท หมวด ๒
(๑) สมาชิกสามัญ ได้แก่ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง การเงิน การบัญชีและการตรวจสอบ
(๒) สมาชิกสมทบ ได้แก่ สมาชิกสามัญที่พ้นจากการปฏิบัติงานในส านักงานและสมัครเป็น
สมาชิก ข้อ ๑๗ ให้สวัสดิการภายในส านักงานจัดตั้งกองทุนขึ้น เรียกว่า “กองทุนสวัสดิการส านักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” แยกต่างหากจากเงินอื่นของส านักงาน เพื่อสะสมทุนและใช้จ่าย
ข้อ ๑๓ ให้เลขาธิการแต่งตั้งสมาชิกเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดท างานสวัสดิการภายในส านักงาน ส าหรับการด าเนินงานตามวัตถุประสงค์ของสวัสดิการภายในส านักงาน
และท าหน้าที่บริหารงานสวัสดิการภายในส านักงานให้เป็นตามมติคณะกรรมการสวัสดิการและระเบียบนี้
รวมทั้งให้มีหน้าที่และอ านาจ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑๘ กองทุนสวัสดิการอาจมีรายได้ ดังนี้
(๑) จัดท าแผนงาน โครงการ และงบประมาณประจ าปีเสนอคณะกรรมการสวัสดิการ (๑) เงินค่าธรรมเนียมสมาชิกตามอัตราและระยะเวลาจ่ายที่คณะกรรมการสวัสดิการก าหนด
เพื่อพิจารณาอนุมัติ (๒) เงินรายรับจากการจัดกิจกรรมหรือการจัดบริการของสวัสดิการภายในส านักงาน
(๒) เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการสวัสดิการในการออกข้อบังคับหรือข้อปฏิบัติ (๓) เงินบริจาคเพื่อการจัดสวัสดิการภายในส านักงาน
และวิธีปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อใช้ในการด าเนินการจัดสวัสดิการภายในส านักงานประเภทต่าง ๆ (๔) เงินอุดหนุนหรือรายได้อื่นตามที่รัฐบาลหรือส านักงานจัดสรรให้ประจ าปี
(๓) การจัดให้มีการบริการ หรือกิจกรรมสวัสดิการต่าง ๆ ตามแผนงาน โครงการ และหรือ (๕) ดอกผลของเงินรายได้ตาม (๑) ถึง (๔)
การปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม (๖) รายได้อื่น ๆ
(๔) ด าเนินการทางธุรการในการบรรจุ แต่งตั้ง บังคับบัญชา และประเมินผลการปฏิบัติงาน ข้อ ๑๙ ให้กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสวัสดิการหรือผู้ที่คณะกรรมการสวัสดิการ
ลูกจ้างสวัสดิการส านักงาน มอบหมาย จัดท ารายงานผลการด าเนินงานในปีที่ผ่านมาให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปี
(๕) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการสวัสดิการมอบหมาย ปฏิทิน เพื่อเสนอคณะกรรมการสวัสดิการพิจารณา
ข้อ ๑๔ การจัดสวัสดิการภายในส านักงานเรื่องใดที่มีความส าคัญและมีลักษณะเฉพาะ ข้อ ๒๐ ให้สวัสดิการภายในส านักงานเปิดบัญชีเงินฝากของกองทุนสวัสดิการไว้กับธนาคารพาณิชย์
ซึ่งสมควรแยกการบริหารจัดการ คณะกรรมการสวัสดิการจะด าเนินการโดยมีระเบียบการจัดสวัสดิการ ตามมติคณะกรรมการสวัสดิการ
เป็นการเฉพาะ ตลอดจนก าหนดให้มีกองทุนสวัสดิการ และการจัดท าบัญชีรับจ่ายในเรื่องนั้น ๆ แยกจาก
กองทุนสวัสดิการของส านักงานก็ได้ ข้อ ๒๑ ให้เหรัญญิกเป็นผู้รับผิดชอบการเงินทั้งปวงของเงินกองทุนสวัสดิการ รวมทั้งจะต้อง
จัดท าและเก็บรักษาบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน ตลอดจนบัญชีอย่างอื่นที่จ าเป็น
ข้อ ๑๕ การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างตามระเบียบนี้ เพื่อแสดงฐานะการเงินและผลการด าเนินงานของสวัสดิการภายในส านักงาน
ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการ ระบบบัญชีให้จัดท าตามระบบบัญชีสากล และให้จัดท างบรายรับรายจ่ายประจ าเดือนเสนอ
ข้อ ๑๖ ภายใต้บังคับกฎหมายและมติคณะกรรมการ เลขาธิการมีอ านาจด าเนินการเพื่อส่งเสริม คณะกรรมการสวัสดิการเพื่อทราบ พร้อมกับจัดท ารายงานการเงินประจ าเดือนส่งให้ผู้ตรวจสอบภายใน
และสนับสนุนการจัดสวัสดิการภายในส านักงานตามความจ าเป็น สมควร และประหยัด ดังต่อไปนี้ ของส านักงาน ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันท าการของเดือนถัดไปเมื่อมีรายการเคลื่อนไหว
(๑) พิจารณาอนุมัติให้สวัสดิการภายในส านักงานใช้ทรัพย์สินหรือสถานที่ส านักงาน เพื่อประโยชน์ ข้อ ๒๒ การปิดบัญชีให้กระท าปีละครั้งตามปีปฏิทิน และให้เหรัญญิกจัดท างบการเงิน
แก่การจัดสวัสดิการภายในส านักงานได้ ซึ่งประกอบด้วย งบรายรับรายจ่าย และงบดุล เพื่อด าเนินการตามข้อ ๒๓ ภายในหกสิบวันนับแต่
(๒) พิจารณาอนุมัติให้ซ่อมแซมหรือบ ารุงรักษาสถานที่ หรือทรัพย์สินตาม (๑) โดยให้ใช้จ่าย วันสิ้นปีบัญชี
จากเงินกองทุนสวัสดิการก่อน ในกรณีที่เงินกองทุนสวัสดิการมีไม่เพียงพอ เลขาธิการอาจพิจารณาอนุมัติ
ให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายเพื่อการนี้ได้ ข้อ ๒๓ ทุกปีให้ผู้ตรวจสอบภายในของส านักงานหรือผู้มีคุณวุฒิด้านการเงินและบัญชี
(๓) พิจารณาอนุมัติให้ใช้น้ า กระแสไฟฟ้า หรือสิ่งสาธารณูปโภคอื่น เพื่อให้จัดสวัสดิการภายใน ที่คณะกรรมการสวัสดิการแต่งตั้งเป็นผู้สอบบัญชี ท าการตรวจสอบและรับรองบัญชีและการเงิน
ส านักงานได้ ของสวัสดิการภายในส านักงานให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับงบการเงินตามข้อ ๒๒
ข้อ ๒๔ ผู้ตรวจสอบภายในของส านักงานหรือผู้สอบบัญชีตามข้อ ๒๓ มีหน้าที่ตรวจสอบ
สมุดบัญชีและเอกสารหลักฐานของสวัสดิการภายในส านักงาน และรับรองบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับงบการเงิน แล้วเสนอคณะกรรมการและเลขาธิการทราบ
214
