Page 106 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 106
97
ตารางที่ 4.2 สถาบัน คณะ/ประเภทวิชาที่มีการกําหนดคุณสมบัติสําหรับผู้ที่สมัครเข้าศึกษาที่มีข้อจํากัดสําหรับ
บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี (ต่อ)
ที่ สถาบัน คณะ/ประเภทวิชา ลักษณะของข้อจ ากัด
17 มหาวิทยาลัยรังสิต หลักสตรแพทยศาสตรบัณฑิต ผู้เข้าศึกษาจะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์
หลักสตรทันตแพทยศาสตร์ แข็งแรงและปราศจากโรคอาการของ
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต โรคดังต่อไปนี้
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ตาบอดสีชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
18 มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น คณะเภสัชศาสตร์ ผ่านการทดสอบสุขภาพกายและไม่
ตาบอดสี
จากตารางแสดงสถาบัน คณะ/ประเภทวิชาที่มีการกําหนดคุณสมบัติสําหรับผู้ที่
สมัครเข้าศึกษาที่มีข้อจํากัดสําหรับบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีจะเห็นได้ว่านอกจากสาขาวิชาแพทยศาสตร์
ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ ที่ทุกสถาบันอุดมศึกษากําหนดเหมือนกันทุกแห่งที่จะไม่
รับบุคคลผู้มีอาการตาบอดสีเข้าศึกษาแล้ว ยังมีสถาบันอุดมศึกษาอีกหลายแห่งที่มีการกําหนดคุณสมบัติสําหรับ
ผู้ที่สมัครเข้าศึกษาที่มีข้อจํากัดสําหรับบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี การกําหนดหลักเกณฑ์ของคุณสมบัติอันเป็น
การกีดกันบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีเช่นนี้ถือเป็นการเลือกปฎบัติ ถ้าการเลือกปฏิบัติเช่นว่านี้ไม่มีเหตุผลอัน
หนักแน่นควรค่าการรับฟังได้ (Raison objectivement plausible) การกระทําเช่นนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการเลือก
ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลผู้มีอาการตาบอดสี ซึ่งตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามหลักการแห่งรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีที่มิอาจทําได้
ในประเด็นของข้อจํากัดหรือข้อสงวนสําหรับบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี ในมิติ
การศึกษานี้ นายแพทย์ ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจําโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ได้ให้สัมภาษณ์
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐไว้ว่า ตนเองมีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนหลายคนที่ต้องพลาดโอกาสเรียนต่อในสายอาชีพ
ที่ต้องการ เนื่องมาจากปัญหาสายตาผิดปกติ โดยเฉพาะโรคตาบอดสี ซึ่งมีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว เช่น กรณีเด็ก
นักเรียนอายุ 16 ปี ที่เป็นความหวังของครอบครัว เสียเงินค่าเรียนกวดวิชาหลายหมื่นบาท เพื่อหวังสอบเข้า
โรงเรียนเตรียมทหาร ผลปรากฏว่าเด็กรายนี้สอบได้ แต่เด็กไม่ทราบว่าเป็นโรคตาบอดสีมาก่อนที่จะเรียนกวดวิชา
มารู้ตอนหลังถึงแม้ว่านักเรียนผู้นี้จะผ่านข้อเขียน ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจร่างกายเพราะเป็นโรคตาบอดสี
แต่โรคตาบอดสีไม่ใช่โรคตาบอดหรือมองไม่เห็น และโรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้หากมีพ่อหรือแม่เป็น คนไทย
ยังรู้จักโรคนี้น้อย ผู้ที่เป็นโรคตาบอดสีมีการมองเห็นเป็นปกติ แต่จะมีความผิดปกติในเรื่องของการแยกสี วงการ
จักษุแพทย์ทั่วโลกยังไม่สามารถรักษาโรคตาบอดสีให้หายขาดได้ และตาบอดสีในคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นแต่
กําเนิด วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าตนเองมีปัญหาหรือไม่ก็คือการตรวจหาความผิดปกติของสายตาเพื่อให้รู้ตัวว่าเป็น
โรคตาบอดสีหรือไม่ จะได้วางแผนการดําเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม เลือกงานอาชีพที่ปลอดภัย ดังนั้นกระทรวง
ศึกษาธิการควรเพิ่มบริการตรวจคัดกรองตาบอดสีให้เด็กนักเรียนที่กําลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกโรงเรียน
ทั้งสังกัดภาครัฐและเอกชน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีการตรวจตาบอดสีในโรงเรียนมาก่อน การตรวจตั้งแต่อยู่ชั้น