Page 217 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2557
P. 217
216 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๗
สาธารณสุข และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นใดที่สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
และกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพ โดยคำานึงถึงสิทธิของผู้ป่วยและประโยชน์
สูงสุดของผู้ป่วยในการรักษาพยาบาล รวมทั้งมีกลไกหรือมาตรการ รวมทั้งแจ้งให้ผู้ป่วยที่มารับบริการ
ทราบถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อประกันว่าโรงพยาบาลของรัฐและของเอกชน ตลอดจน
แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและที่เป็นเอกชนจะเข้าใจและปฏิบัติตามในการ
ให้ความคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะรายงานการแพทย์ของ
ผู้ป่วยที่เป็นเจ้าของข้อมูลที่สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๒๕ พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๔๕ และ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นใด
ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย
๑) คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของ
ราชการ) สำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรทบทวนข้อยกเว้นที่บัญญัติ
ไว้ในร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ดังนี้
- มาตรา ๕ วรรคท้าย ซึ่งบัญญัติว่า “การยกเว้นไม่ให้นำาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ
นี้มาใช้บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะใดหรือกิจการใดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตาม
ข้อเสนอของคณะกรรมการ” เนื่องจากเป็นการใช้กฎหมายที่มีสถานะทางกฎหมายลำาดับรองมายกเว้น
กฎหมายที่มีสถานะทางกฎหมายลำาดับสูงกว่า จึงไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม (Rule of Law)
- มาตรา ๑๖ วรรคสาม ซึ่งบัญญัติว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเพิกถอนความ
ยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีกฎหมายหรือสัญญาจำากัดสิทธิในการเพิกถอน ....” เนื่องจากเปิดโอกาส
ให้มีการทำาสัญญาสำาเร็จรูป
- มาตรา ๒๗ ซึ่งกำาหนดข้อยกเว้นว่า “ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผย
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครอง หรือควบคุมดูแลของตนโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือ
จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
(๑) เปิดเผยต่อทนายความของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ว่าความ
แทนในคดีใดคดีหนึ่ง หรือได้รับมอบอำานาจทั่วไปให้กระทำาการแทนผู้ควบคุม
ข้อมูลส่วนบุคคล
(๒) เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บหนี้ ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องชำาระ
ให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
(๓) เปิดเผยแก่หน่วยงานที่มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นประวัติศาสตร์
(๔) เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐร้องขอในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศหรือกิจการระหว่างประเทศ
(๕) .........................................”