Page 398 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 398
320
มากในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้นความเป็นคนหรือความเป็นสิทธิพลเมืองของกลุ่มคนเหล่านั้น จะปรากฏเป็น
ถ้อยคําที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายอย่างไร เพราะว่ากฎหมายเราหลายข้อพูดคําว่าหญิงและชาย แต่
ไม่ได้ระบุ เพราะฉะนั้นคนที่เขาไม่ได้เป็นหญิงและเป็นชาย เขาจะถูกระบุว่าอย่างไร ถ้าเราเปลี่ยนเป็นบุคคล
มันก็จะไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องพวกนี้อย่างนี้เป็นต้น บุคคลใดๆ ก็ตามที่นําคดีขึ้นสู่ศาล ไม่ต้องระบุว่าเป็นหญิง
หรือชาย ตามที่กฎหมายระบุ มันก็จะหายไปในเรื่องพวกนี้ อันนี้เป็นกรณีหนึ่งเท่านั้น หรือแม้แต่กฎหมายคํา
นําหน้าก็ตาม ประเทศเราเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่ระบุว่าต้องมี นาย นาง นางสาว ซึ่งในหลายประเทศเขา
ไม่มีคํานําหน้า เพราะฉะนั้นคํานําหน้าเป็นเรื่องวัฒนธรรม ดังนั้นเป็นบุคคล บุคคลของรัฐทุกๆ คนไม่ว่าจะ
เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมีชีวิตเดินเข้ามาหารัฐก็เป็นบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองอย่างนี้เป็นต้น
ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของกระบวนการที่จะต้องเอาตัวรายละเอียดของกฎหมายระเบียบปฏิบัติ
กระบวนการทั้งหลายที่ทําอยู่ในกระบวนการยุติธรรมมาปรับ กฎหมายวิธีพิจารณาความต่างๆ อาจจะต้อง
นํามาชําระด้วย รวมถึงระเบียบของสํานักงานตํารวจแห่งชาติด้วยในเรื่องของการดําเนินคดี ใช้ตัวกฎหมาย
วิธีพิจารณาความด้วย แต่ว่าระเบียบจะต้องเป็นอีกอันหนึ่งที่จะต้องหยิบออกมาดูด้วยว่าระเบียบเหล่านั้นมัน
ไปกระทบต่อสิทธิของผู้ที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมากน้อยแค่ไหน จากกระบวนการนี้ก็ไปแปลเป็น
ตัวชี้วัดว่าถ้าเราแก้ไขระเบียบตัวชี้วัดก็จะถูกกําหนดลงไป ซึ่งคิดว่าถ้าคณะทํางานทําได้ขนาดนี้ เชื่อว่า
กระบวนการยุติธรรมจะถูกชําระล้างและสามารถที่จะได้คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนที่เข้าสู่กระบวนการ
ยุติธรรมได้ ไปตรวจสอบระเบียบต่างๆ และตรวจสอบกฎหมายวิธีแพ่ง วิธีพิจารณาความและตรวจสอบ
ชําระกฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งพาณิชย์ของเราอีกครั้งหนึ่งว่าตัวไหนแยกออกจากกันได้บ้าง
คุณสันติ ลาตีฟี - ท่านผู้แทนตํารวจ ท่านจะเพิ่มเติมตรงไหนไหมครับ หรือจะมีท่านอื่น เชิญครับ
คุณกรองแก้ว โมกขมรรคกุล (ส านักงานศาลยุติธรรม) - หัวข้อกลุ่มที่ผ่านมายังมีประเด็นที่สงสัย
หลายเรื่อง เรื่องพลการ มันกว้าง เหมือนกับว่าถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้วไม่
น่าจะเขียนออกมา เหมือนกับว่าเราไปมองว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายเองอันนี้มันก็
ล่อแหลม ถ้าเราเขียนเป็นแบบนี้มันถูกต้องหรือไม่ ยังมีความสงสัยว่าของเรายังมีการล้างเผ่าพันธุ์หรือ
เพราะว่าการล้างเผ่าพันธุ์มันเป็นของต่างประเทศหรือไม่ เพราะในตัวชี้วัดนี้ยังมีเรื่องของการล้างเผ่าพันธุ์ด้วย
ในส่วนของตัวชี้วัดที่ 3 นี้ มุ่งเน้นไปถึงในเรื่องของความเท่าเทียมทางกฎหมายและสิทธิในทาง
กระบวนการยุติธรรมทางอาญ แต่การนําแพ่งมารวมด้วย ก็เลยสงสัยว่าสิทธิที่เรากําลังพูดถึงตัวชี้วัดนี้เราพูด
ทั้งทางแพ่งและทางอาญา หรือเอาเฉพาะกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เพราะถ้าทางอาญาเราต้องพูดถึง
แต่เรื่องทางอาญา แต่ถ้าเราเอาแพ่งมารวม เราไม่น่าจะใช้ตัวนี้
ในเรื่องของการคุมขังในทางคดีแพ่ง การชําระหนี้ในทางแพ่ง โทษทางแพ่งไม่มีการคุมขังในเรื่องของ
คดีแพ่ง เป็นเรื่องของทรัพย์สินเท่านั้น ในส่วนของเรื่องการให้การอบรมความรู้ มาตรฐานเกี่ยวกับระหว่าง
ประเทศในเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝุายตุลาการ กึ่งตุลาการ หรือเจ้าหน้าที่ให้บริการสาธารณะ ตรงนี้
ต้องดูนิดหนึ่งว่ามาตรฐานระหว่างประเทศเอามาใช้กับเราได้หรือไม่ เมื่อเราไม่มีกฎหมายบังคับออกมาใช้
เราบอกว่าเราอบรมเอากฎหมายต่างประเทศเข้ามา แต่เราไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากกฎหมายเราไม่เอื้อ
หรือระเบียบเราไม่มีกําหนดเอาไว้ เราจะต้องมาดูก่อนว่าสิ่งที่เราเขียนไปมันทําได้หรือไม่ เช่น ให้ตุลาการมา
บอกว่า เอามาตรฐานระหว่างประเทศมาใช้ เอาอะไรมารองรับว่าเอามาตรฐานระหว่างประเทศมาใช้ ในเมื่อ
ไม่มีสิ่งที่อ้างอิง หรือรัฐธรรมนูญ กฎหมายของเราเอง หรือระเบียบมารองรับการเขียนอย่างนี้เหมือนกับเอา
รายงานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 2