Page 215 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 215
คณะกรรมการตรวจสอบพิสูจนสิทธิการ ๒) สวนราษฎรที่ครอบครองที่ดินบริเวณนั้น
ครอบครองที่ดินบริเวณพื้นที่ปาตนน้ำเปอ-น้ำกอน พื้นที่ปาตนน้ำเปอ - น้ำกอน ที่มีรายชื่อ
ทองที่อำเภอเชียงกลาง ไดจัดประชุมผลการประชุม ตามประกาศสำนักงานปาไมจังหวัดนาน
สรุปผลการดำเนินการตรวจสอบพิสูจนสิทธิฯ ตั้งแต ฉบับลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๔ และไมไป
เดือนมีนาคม–กรกฎาคม ๒๕๔๔ เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ ติดตอขอรับการตรวจสอบพิสูจนสิทธิ ไมนำ
๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ณ หองประชุมสำนักงาน คณะกรรมการตรวจสภาพแปลงที่ดินที่
ปาไมจังหวัดนาน โดยมีนายทวี คงมั่น ปาไมจังหวัด ครอบครอง ใหถือวาสละสิทธิการพิสูจน
นานเปนประธานที่ประชุม โดยปรากฏผลวา มีผูเขา สิทธิการครอบครองที่ดิน และไมสามารถ
ครอบครองและใชประโยชนบนปาตนน้ำเปอ – นำไปอางขอพิสูจนสิทธิในภายหลัง
น้ำกอน รวมทั้งสิ้น ๖ หมูบาน จำนวน ๕๖๙ ราย ตอมา คณะกรรมการตรวจสอบพิสูจนสิทธิฯ
ที่ดิน ๑,๓๗๙ แปลง พื้นที่ ๖,๓๖๙ ไร โดยมีราษฎร เสนอใหจังหวัดใหเรงดำเนินการตามมติคณะ
ที่มีรายชื่อ แตไมไดยื่นคำรองเพื่อการตรวจสอบ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ คือ
พิสูจนสิทธิ จำนวน ๑๐๕ ราย ที่ ๒๒๑ แปลง พื้นที่ ๑. กำหนดสิทธิของที่ดินในเขตปาสงวน ปาอนุรักษ
๘๖๑ ไร เปนของชาวไทยภูเขาบนพื้นที่สูง ชาวมง ใหชัดเจน
ปากลาง ๑๕ ราย จำนวน ๑๗ แปลง พื้นที่ ๑๖๒ ไร ๒. ขึ้นทะเบียนผูครอบครองพื้นที่ที่สงวนหวง
ผลการตรวจสอบพิสูจนสิทธิการครอบครองที่ดิน พบ หาม ปาอนุรักษ เพื่อใชในการจัดการดำเนิน
วา มีผูที่ครอบครอง ทำประโยชนมากอนป ๒๕๓๑ การอนุรักษและการพัฒนาที่ยั่งยืน
จำนวน ๕๑๕ ราย ที่ ๑,๒๙๓ แปลง จำนวน ๓. ตรวจสอบการครอบครองที่ดินของราษฎรโดย
๖,๐๗๑ ไร เปนของมงปากลาง ๑๗๐ ราย จำนวน ใชภาพถายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร
๑๗๘ แปลง พื้นที่ ๑,๖๕๖ ไร และพบวามีราษฎร ๔. จัดทำเขตบริเวณที่อยูอาศัยที่ทำกิน หามขยาย
อีก ๕ หมูบาน ที่เขามาภายหลังป ๒๕๓๑ คือ บาน เปนการทำกินเพื่อการครองชีพเปนหลัก
หนองปลา มี ๒ ราย จำนวน ๓๑ ไร บานหนอง มี ๑๑
ราย จำนวน ๗๔ ไร บานชี มี ๗ ราย จำนวน ๖๕ ไร จากขอมูลสถิติ และผลการตรวจสอบพิสูจน
บานเกวต มี ๓๔ ราย จำนวน ๑๒๘ ไร รวมพื้นที่ที่มี สิทธิฯ คณะอนุกรรมการที่ดินและน้ำ พบวา มิใชชาวมง
การครอบครองหลังป ๒๕๓๑ จำนวน ๒๙๘ ไร ๕๔ แหงตำบลปากลางเทานั้นที่ปลูกลิ้นจี่ แตยังมีบาน
ราย จากจำนวนราษฎรที่มีรายชื่อตามประกาศของ หนองปลา บานหนอง บานชี บานกอก และบานเกวต
คณะกรรมการตรวจสอบพิสูจนสิทธิฯ เมื่อวันที่ ๑ รวม ๕ หมูบาน ที่เปนทั้งชาวถิ่นและชาวไทยพื้นราบ
มีนาคม ๒๕๔๔ จำนวน ๖๗๔ ราย ที่ดิน ๑,๖๐๐ บางสวนที่ขึ้นไปอยูบานหนอง รวมทั้งบานปางแก ที่
แปลง พื้นที่ ๗,๒๓๐ ไร อยูตนน้ำเปอใน อ.ทุงชาง ก็ปลูกลิ้นจี่เชนกัน สวน
และที่ประชุมในวันนั้นไดมีมติเปนเอกฉันท ชุมชนชาวไทยพื้นราบในตำบลพระธาตุ ตำบล
รวมกันวา เชียงกลาง ตำบลพญาแกว ซึ่งมีไมต่ำกวา ๑๑ หมูบาน
๑) พื้นที่ที่ราษฎรครอบครองตามการแปล อันประกอบดวย บานดอนแกว บานพวงพยอม บาน
ตีความภาพถายทางอากาศเปนพื้นที่ ไรราง เดนธารา บานหัวน้ำ บานกลาง บานพราว บาน
(AO) นั้น เปนพื้นที่ราษฎรครอบครอง สรอยพราว บานวังหวา บานนาหนุน บานปาแดง
ทำประโยชนที่ดินมากอนการประกาศ และบานน้ำออ ซึ่งพบวามีวิถีการผลิตเพาะปลูกที่
เขตปาสงวนแหงชาติ ตองอาศัยน้ำเปนจำนวนมาก มีการทำนาปรังปละ ๒
เสียงจากประชาชน
214 การตอสูเพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีรองเรียน ๒๕๔๕-๒๕๕๐