Page 11 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ: กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ
P. 11

โครงการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะนโยบายหรือมาตรการเพื่อคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของผู้สูงอายุ :1111
                                                                    กรณีการเลือกปฏิบัติในผู้สูงอายุ | v

             ร่วมกิจกรรมชมรม และการบริการด้านการศึกษา ตามล าดับ ที่น่าสนใจ คือ การเข้าใช้บริการจัดหางานของ

             ภาครัฐโดยผู้สูงอายุ มีสัดส่วนที่ต่ ากว่าการให้บริการของภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม การเข้าใช้บริการจาก
             ภาคเอกชนมีน้อยมาก และจากองค์กรไม่แสวงหาก าไร กล่าวได้ว่าไม่เคยเข้าใช้บริการเลย ภาครัฐจึงเป็นผู้
             ให้บริการทางเศรษฐกิจและสังคมที่ส าคัญ
                           2. ด้านสิทธิประโยชน์ด้านสุภาพและคุณภาพชีวิต ซึ่งได้แก่ การบริการด้านสาธารณสุข
             (การป้องกัน การรักษา การฟื้นฟูบ าบัด) และการบริการด้านการประชาสงเคราะห์นั้น ภาครัฐยังเป็นผู้

             ให้บริการที่ส าคัญที่สุดที่ผู้สูงอายุส่วนมากเกือบทั้งหมดได้เข้าใช้บริการ รองลงมา คือ ภาคเอกชน แต่เป็น
             สัดส่วนที่ต่ ากว่าของภาครัฐมากๆ ส าหรับองค์กรไม่แสวงหาก าไร นั้นไม่มีบทบาทแต่อย่างใด
                           3. ด้านสิทธิประโยชน์ด้านกระบวนการยุติธรรม สัดส่วนผู้สูงอายุน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของ

             ผู้ตอบ เคยเข้าใช้บริการด้านกฎหมายจากภาครัฐ ในขณะที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุไม่เคยใช้บริการจาก
             ภาครัฐ และเกือบทั้งหมดของผู้สูงอายุไม่เคยเข้าใช้บริการของภาคเอกชน ส าหรับบริการด้านกฎหมายของ
             องค์กรไม่แสวงหาก าไร ผู้สูงอายุไม่เคยเข้าใช้บริการเลย ดังนั้น การเข้าใช้สิทธิประโยชน์ด้านกระบวนการ
             ยุติธรรมนั้น ภาครัฐก็เป็นผู้ให้บริการที่ส าคัญเช่นเดียวกับ แต่เป็นสิทธิประโยชน์ที่ผู้สูงอายุในสัดส่วนประมาณ
             ร้อยละ 60 ไม่เคยเข้าใช้ประโยชน์เลย

                           4. ในการเข้าใช้บริการด้านต่าง ๆ ภายใต้สิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุนั้น ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุ
             เข้าใช้บริการภาครัฐและภาคเอกชนด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ใด รองลงมา คือ อาศัยบุตรหลาน และ
             ตามมาด้วย คู่สมรส

                           5. ส าหรับอุปสรรคส าคัญ 3 อันดับแรกในการเข้าใช้บริการด้านต่างๆของภาครัฐและเอกชน
             นั้น อุปสรรคส าคัญอันดับแรกการเช้าใช้บริการด้านต่างๆของภาครัฐ คือ กระบวนการ/ขั้นตอนในการเข้าใช้
             บริการยุ่งยาก ล าดับที่สอง ได้แก่ ตัวผู้สูงอายุเองที่มีความกลัวในการเข้าใช้บริการของภาครัฐ และอันดับที่สาม
             ได้แก่การเดินทางไม่สะดวก ในขณะที่ในการเข้าใช้บริการของภาคเอกชนนั้น อุปสรรคส าคัญอันดับแรก ได้แก่
             ค่าใช้จ่ายสูง อันดับต่อมา คือ ความกลัวในการเข้าใช้บริการโดยตัวของผู้สูงอายุเอง และอันดับที่สาม คือ

             กระบวนการ/ขั้นตอนยุ่งยาก
                       (3) การรับรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้สูงอายุตามสิทธิของผู้สูงอายุ: จ านวน 12 ข้อ ที่ได้ระบุไว้ใน
             พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 พบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่และทุกกลุ่มวัยอายุมีการรับรู้ถึงสิทธิในการได้รับ

             ความคุ้มครองด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตมากที่สุด (ได้แก่ 1. สิทธิในการได้รับบริการทางการแพทย์และ
             สาธารณสุขที่สะดวกและรวดเร็ว และ 2. การสงเคราะห์ค่าจัดการศพ) รองลงมา คือ การคุ้มครองด้านสิทธิ
             ในทางเศรษฐกิจและสังคม (1. สิทธิในการได้รับการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพเป็นรายเดือน 2. การพัฒนาตนเอง
             และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมและการรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่าย 3. การอ านวยความสะดวกและ
             ความปลอดภัยในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ และบริการสาธารณะอื่น ๆ 4. การช่วยเหลือด้านค่าโดยสาร

             ยานพาหนะ 5. การยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ 6. การประกอบอาชีพและการฝึกอาชีพที่เหมาะสม
             7. การศึกษา ศาสนา ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการด าเนินชีวิต และ 8. การจัดที่พักอาศัย อาหาร
             เครื่องนุ่งห่ม ตามความจ าเป็น) ในขณะที่สิทธิที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ทุกกลุ่มวัยอายุไม่ได้รับรู้ว่าได้รับความ
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16