Page 50 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 50
๔
ข้อมูลข่าวสารของราชการใดมีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย หน่วยงานของรัฐจะขอขยายเวลาในการ
จัดหาให้หรือจะจัดท าส าเนาให้ในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูลข่าวสารนั้น
ก็ได้
ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานของรัฐจัดหาให้ตามวรรคหนึ่งต้องเป็นข้อมูลข่าวสารที่มี
อยู่แล้วในสภาพที่พร้อมจะให้ได้ มิใช่เป็นการต้องไปจัดท า วิเคราะห์ จ าแนก รวบรวม หรือจัดให้
มีขึ้นใหม่ เว้นแต่เป็นการแปรสภาพเป็นเอกสารจากข้อมูลข่าวสารที่บันทึกไว้ในระบบการบันทึกภาพ
หรือเสียง ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบอื่นใด ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการก าหนด แต่ถ้าหน่วยงานของ
รัฐเห็นว่ากรณีที่ขอนั้นมิใช่การแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า และเป็นเรื่องที่จ าเป็นเพื่อปกป้อง
สิทธิเสรีภาพส าหรับผู้นั้นหรือเป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ หน่วยงานของรัฐจะจัดหาข้อมูล
ข่าวสารนั้นให้ก็ได้
บทบัญญัติวรรคสามไม่เป็นการห้ามหน่วยงานของรัฐที่จะจัดให้มีข้อมูลข่าวสารของราชการใด
ขึ้นใหม่ให้แก่ผู้ร้องขอหากเป็นการสอดคล้องด้วยอ านาจหน้าที่ตามปกติของหน่วยงานของรัฐนั้นอยู่แล้ว
ให้น าความในมาตรา ๙ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มาใช้บังคับแก่การจัดหาข้อมูลข่าวสาร
ให้ตามมาตรานี้ โดยอนุโลม
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่มีผู้ยื่นค าขอข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา ๑๑ แม้ว่าข้อมูลข่าวสาร
ที่ขอจะอยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานส่วนกลางหรือส่วนสาขาของหน่วยงานแห่งนั้น หรือจะอยู่
ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นก็ตาม ให้หน่วยงานของรัฐที่รับค าขอให้ค าแนะน า
เพื่อไปยื่นค าขอต่อหน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารนั้นโดยไม่ชักช้า
ถ้าหน่วยงานของรัฐผู้รับค าขอเห็นว่าข้อมูลข่าวสารที่มีค าขอเป็นข้อมูลข่าวสารที่จัดท าโดย
หน่วยงานของรัฐแห่งอื่น และได้ระบุห้ามการเปิดเผยไว้ตามระเบียบที่ก าหนดตามมาตรา ๑๖ ให้ส่งค าขอ
นั้นให้หน่วยงานของรัฐผู้จัดท าข้อมูลข่าวสารนั้นพิจารณาเพื่อมีค าสั่งต่อไป
มาตรา ๑๓ ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๗ หรือไม่จัดข้อมูล
ข่าวสารไว้ให้ประชาชนตรวจดูได้ตามมาตรา ๙ หรือไม่จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ตนตามมาตรา ๑๑ หรือ
ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า หรือเห็นว่าตนไม่ได้รับความสะดวก
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ผู้นั้นมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการ เว้นแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีค าสั่งมิให้
เปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ หรือค าสั่งไม่รับฟังค าคัดค้านตามมาตรา ๑๗ หรือค าสั่งไม่แก้ไข
เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๕
ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้ว
เสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับค าร้องเรียน ในกรณีที่มีเหตุจ าเป็นให้ขยายเวลาออกไปได้
แต่ต้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินหกสิบวัน
หมวด ๒
ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย
มาตรา ๑๔ ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
จะเปิดเผยมิได้
44