Page 104 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 104
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ไปทรงเยี่ยมราษฎรในภาคต่างๆ โดยเฉพาะในกรณีเกิดภัยธรรมชาติ เช่น เสด็จพระราชดำาเนินไปทรง
เยี่ยมราษฎรที่เกิดอุทกภัยในจังหวัดนครพนม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ เสด็จพระราชดำาเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
ทางภาคกลางที่เกิดนำ้าท่วมใหญ่ไร่นาล่มจมเสียหาย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘ รวมทั้งในระหว่างเสด็จ
แปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระราชนิเวศน์ในต่างจังหวัด ได้มีพระราชดำารัสถามราษฎรที่มาเฝ้า
ทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ ทำาให้ทรงทราบว่าราษฎรในชนบทจำานวนมากยากจน มีรายได้ไม่พอ
เลี้ยงชีพ และไม่สามารถที่จะหารายได้เพิ่ม ไม่เห็นหนทางที่จะแก้ไขความเดือดร้อนด้วยตนเอง
ขาดแคลนสาธารณสุขพื้นฐาน ขาดสุขอนามัย ยามเจ็บไข้ก็ไม่มีแพทย์และยารักษาโรคที่จะบำาบัดรักษาแล้ว
พระองค์ได้มีพระราชดำาริที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ดังพระราชดำารัส ความว่า
“...พระเจ้าอยู่หัวและข้าพเจ้าไม่ได้พึงพอใจกับเพียงแต่เยี่ยมเยียนราษฎร
หรือทำาแต่สิ่งที่เคยทำาเป็นประเพณี เราต้องพยายามให้ดีกว่านั้น เราต้องช่วย
รัฐบาลส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นเพราะเราเป็นประเทศ
ด้อยพัฒนา ดังนั้น การที่เพียงแค่ไปเยี่ยมเยียนราษฎรเพราะเป็นหน้าที่ของประมุข
ของประเทศที่จะต้องทำาตามประเพณีนั้น เป็นเรื่องไร้สาระ หากเราไม่สามารถ
มีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนแล้ว เราต้องถือว่าการเป็นประมุข
ประสบความล้มเหลว....”
พระราชดำารัสนี้ได้แสดงถึงพระราชหฤทัยของพระองค์ ซึ่งทรงมุ่งมั่นที่จะบรรเทาทุกข์ให้แก่
ราษฎร และหากทบทวนพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำาเพ็ญอย่างจริงจังและต่อเนื่องแล้ว จะเห็นได้ว่า
ราษฎรในชนบทต่างได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากการเสด็จเยี่ยมเยียนไปทั่วราชอาณาจักรนับครั้ง
ไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ เกิดขึ้นหลายโครงการ (ประมาณ ๔,๕๙๖
โครงการ) มีทั้งโครงการเรื่องการเกษตร เรื่องนำ้า เรื่องดิน เรื่องการฟื้นฟูและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การฟื้นฟูและพัฒนางานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน การแพทย์ การสาธารณสุข ฯลฯ ก็ล้วนแต่มุ่งที่จะ
ส่งเสริมความเป็นอยู่ของราษฎรทั้งสิ้น
ในระยะแรกของการเสด็จพระราชดำาเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในต่างจังหวัด เมื่อทรงพบเห็นว่า
ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ มีอาการเจ็บป่วย พระองค์ได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์
ให้แพทย์ที่ตามเสด็จฯ ไปในขบวน ตรวจอาการ จ่ายยา และให้คำาแนะนำาแก่ราษฎรในการดูแลรักษา
ตนเอง แต่หากไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ในขณะนั้น หรือเป็นโรคที่ร้ายแรง จึงมีพระราชเสาวนีย์
ให้ส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ใกล้ท้องถิ่นนั้น โดยพระราชทานหนังสือรับรองว่าเป็นคนไข้
ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายที่จำาเป็น ส่วนค่ารักษาพยาบาลและค่ายานั้น
จะพระราชทานแก่โรงพยาบาลโดยตรง หากผู้ป่วยไม่สามารถไปเองได้จะทรงจัดเจ้าหน้าที่นำาไป และ
พระราชทานค่าใช้จ่ายแก่เจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ท้องถิ่นนั้นขาดบุคลากรทางการแพทย์
หรือเครื่องมือเครื่องใช้ในการรักษา ก็ให้ส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ โดยพระราชทาน
ค่าเดินทางและค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด
104 ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น