Page 103 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 103
ครั้นเมื่อมีการจัดตั้งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ สมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำาเนินไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุมหลายครั้ง
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ รับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยไว้ใน
พระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ และพระราชทานทุนทรัพย์ตั้งกองทุนเมตตา ขึ้น
เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า คนบางคนแม้จะตั้งใจประกอบอาชีพโดยสุจริตด้วยความขยันแล้ว
แต่มีรายได้ไม่เพียงพอแก่ความจำาเป็นที่ต้องใช้จ่าย จึงเดือดร้อนด้วยประการต่างๆ จนมีหนี้สินพอกพูน
ขึ้นเรื่อยๆ ยากที่จะปลดเปลื้องได้ เกิดความเดือดร้อน เป็นความทุกข์ของครอบครัวทับถมซับซ้อน
ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ความเจ็บป่วยด้านจิตใจ ความเก็บกดหรือการแก้ปัญหาในทางที่ผิด
ของเยาวชนที่อยู่ในครอบครัวนั้นๆ ความท้อแท้ที่จะศึกษาเล่าเรียน จนท้ายที่สุดกลายเป็นปัญหาของ
สังคม กองทุนเมตตาจึงได้ขจัดปัดเป่าบรรเทาความทุกข์ยากของผู้ที่เดือดร้อน ได้ตามวัตถุประสงค์
ในเวลานั้นแล้วยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำานวนหนึ่งแก่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นทุนริเริ่มกองทุนพระราชทานช่วยเหลือการศึกษาแก่เยาวชน เพื่อช่วยเหลือ
เด็กขาดแคลนให้มีโอกาสได้เล่าเรียน มีความรู้ไปประกอบอาชีพและดำาเนินชีวิตในแนวทางที่ถูกที่ควร
กองทุนนี้ ต่อมาได้มีผู้สมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขยายเป็นทุนอื่นๆ ที่มีวัตถุประสงค์ทำานองเดียวกันนี้
อีกหลายทุน มีชื่อต่างๆ ได้ช่วยสร้างคนให้เป็นคนที่มีคุณค่าแก่แผ่นดินเมื่อเติบโตขึ้น
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระบรมราชินูปถัมภ์แก่สมาคม
และมูลนิธิเพื่อการสังคมสงเคราะห์เป็นจำานวนมาก เช่น มูลนิธิช่วยเด็กปัญญาอ่อน ในพระบรมราชินูปถัมภ์
มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรม
ราชินูปถัมภ์ สมาคมผู้บำาเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นต้น
พระองค์ทรงส่งเสริมการปฏิบัติงานช่วยเหลือองค์กรการสังคมสงเคราะห์ เพื่อดำาเนินงาน
สาธารณกุศล เช่น เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๖ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ได้จัด
ตั้งศูนย์บริการอาสาสมัครขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ประจำาของหน่วยงาน บรรเทาทุกข์
หรือสาธารณประโยชน์ ได้แก่ โรงพยาบาลศูนย์เยาวชน สถานสงเคราะห์ ฯลฯ
“...การที่คนไทยเรายึดหลักอุดมคติว่า ความทุกข์สุขไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะ
บุคคล หรือเฉพาะครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเท่านั้น เป็นความคิดที่ทันสมัย
ในโลกปัจจุบัน เราจะมีความสุขแต่ลำาพัง โดยไม่คำานึงถึงความเดือดร้อนของคน
อีกหลายคนที่แวดล้อมเราอยู่นั้นไม่ได้ ผู้มีจิตหวังประโยชน์ส่วนรวม ย่อมรู้จัก
แบ่งปันความสุขเพื่อผู้อื่น และพร้อมที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นตามกำาลัง
และโอกาสเสมอ...”
(พระราชดำารัสในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้คณะกรรมการและอาสาสมัครเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน
พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๐)
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น 103