Page 4 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 4

ข

                  รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์  เรื่อง “กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ”





                                                             รองศาสตราจารย์คณาธิป ทองรวีวงศ์ และคณะ





                  บทคัดย่อ




                         หลักความเสมอภาคหรือหลักความเท่าเทียมกัน เป็นหลักส าคัญซึ่งได้รับการรับรองในกฎหมายสิทธิ

                  มนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายประเทศต่างๆ  อย่างไรก็ตาม มีพฤติกรรมบางอย่างซึ่งส่งผลเป็น
                  อุปสรรคขัดขวางต่อหลักความเสมอภาคหรือหลักความเท่าเทียมกัน นั่นคือ “การเลือกปฏิบัติ”  ซึ่งมี

                  ลักษณะที่สัมพันธ์กับ “เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ”  เช่น เพศ เชื้อชาติ ศาสนา เป็นต้น โดยการเลือกปฏิบัติ
                  อาจเกิดขึ้นในมิติต่างๆ ของการด าเนินชีวิตในสังคม เช่น มิติของการจ้างแรงงานและการประกอบอาชีพ มิติ

                  ของการบริการภาครัฐหรือภาคเอกชน เป็นต้น อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาหลักของการวิจัยนี้คือ กฎหมาย

                  เกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติของไทยปัจจุบันมีความเหมาะสมและครอบคลุมการเลือกปฏิบัติกรณีต่างๆ
                  หรือไม่  การศึกษาวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งมีขอบเขตครอบคลุมการศึกษากฎหมายไทยที่เป็นอยู่

                  ในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับ กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และกฎหมายต่างประเทศ เช่น
                  สหภาพยุโรป อาฟริกาใต้ สวีเดน ฟินแลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย สิงค์โปร์ มาเลเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา

                  เป็นต้น


                         ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การเลือกปฏิบัติมีความหมายและขอบเขตแตกต่างกันในหลายบริบท
                  งานวิจัยนี้น าปัจจัยเชิงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยสองประการ คือ เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ และ มิติของ

                  การเลือกปฏิบัติ ประกอบกับปัจจัยอื่นในการพิจารณาการเลือกปฏิบัติตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชน

                  ระหว่างประเทศและกฎหมายต่างประเทศมาสร้างกรอบแนวคิดอันท าให้สามารถจ าแนกการเลือกปฏิบัติ
                  ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนกับการเลือกปฏิบัติในกรอบกฎหมายอื่นหรือในมิติอื่น นอกจากนี้ยังพบว่า ล าพัง

                  “การปฏิบัติที่แตกต่างกัน” ยังอาจไม่ใช่การเลือกปฏิบัติตามนัยของกฎหมายสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ยังต้องมี
                  การน าปัจจัยอื่นมาประกอบการพิจารณาด้วย  ในส่วนของการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนนั้น

                  ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า กฎหมายไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่ามีกฎหมายเฉพาะหลายฉบับที่วางหลัก

                  เกี่ยวกับการห้ามเลือกปฏิบัติ แต่ยังไม่เหมาะสมและเพียงพอในการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติ เนื่องจาก
                  กฎหมายเหล่านั้นมีขอบเขตจ ากัดเฉพาะบางเหตุและบางมิติของการเลือกปฏิบัติ โดยยังไม่ครอบคลุมถึงการ

                  เลือกปฏิบัติหลายกรณี เช่น การเลือกปฏิบัติในมิติของภาคเอกชน โดยเฉพาะกรณีการเลือกปฏิบัติในมิติการ
                  จ้างแรงงานด้วยเหตุอื่นนอกจากเหตุแห่งเพศ การเลือกปฏิบัติในมิติของการให้บริการหรือการจ าหน่าย

                  สินค้าของภาคเอกชน การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุประวัติอาชญากรรม การเลือกปฏิบัติในกรณีการให้นมบุตร
   1   2   3   4   5   6   7   8   9