Page 24 - บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2560
P. 24
แม้สภาพร่างกายของปู่คออี้จะอ่อนแอลงตามกาลเวลา แต่ในหลาย ๆ ครั้ง ปู่คออี้ยอมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงที่นายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ หลานชายที่หายตัวไป ปู่คออี้ได้เข้ามาร้องเรียน
ขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ
ในวัย ๑๐๖ ปี แม้ร่างกายปู่จะร่วงโรยไปตามสังขาร แต่ก็ยังต้องการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมเท่าที่
มีช่องทางอยู่ ปู่คออี้ยังยืนยันว่าอยากกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม ที่ซึ่งเคยอยู่มาตั้งแต่เกิด และเฝ้ารอเวลาว่าจะทำายังไง
ถึงจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านเดิม ปู่ยังมีความหวัง และคิดว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ก็เลยอยากกลับไปตายในที่ที่แกเคยอยู่
เพราะแกเชื่อเสมอว่าที่นั่นคือบ้านของแก
..ข้อคิดหรือกําลังใจที่ได้จากการทํางานเพื่อส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน..
“..ฉันทำ�อย่างนี้ก็เพื่อดูแลรักษาพื้นที่ของพวกปู่ย่า�ตายายแต่ก่อนมา�เพื่อทุกคนที่อาศัย�
อยู่ในป่า�ฉันลุกขึ้นมาเรียกร้องที่จะกลับไปอยู่ในถิ่นฐานดั้งเดิม��ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเอง�
แต่เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า��ฉันก็ต้องทำ�ให้ลูกหลานได้เห็น�เพื่อพวกเขาจะไม่ลืมปู่ย่า�
ตายายและพวกเขาจะได้มีพื้นที่ทำ�ไร่ข้าว�เมื่อมีข้าวพวกเขาก็จะอยู่ได้
ฉันไม่ได้ทำ�ลายป่า..ฉันลืมตาขึ้นมาป่าก็อยู่ตรงนั้น� น้ำ�นมหยดแรกที่ฉันได้ดื่มก็คือ
ตรงนั้น..ป่าก็ยังอยู่ไม่ได้เสียหาย..พวกเขาเอาฉันลงมาอยู่ข้างล่างนี้� แล้วเมื่อไหร่จะ
เอาฉันกลับไปอยู่ที่เดิม”
21
รางวัลเกียรติยศ “ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน”

