Page 23 - บุคคลและองค์กรที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2560
P. 23
ในปี ๒๕๓๙ หน่วยงานรัฐ ได้ร่วมกันจัดทำาโครงการศึกษาเพื่อหา
แนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำาลำาธารอย่างถาวรของชาวไทยภูเขา
ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยได้อพยพชาวกะเหรี่ยง ที่อาศัยอยู่
ตามแนวชายแดนไทย – พม่า มาอาศัยอยู่รวมกันที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย
ซึ่งปู่คออี้เป็นบุคคลกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ลงมาอาศัยตามโครงการดังกล่าว
แต่ภายหลังชาวกะเหรี่ยงบางส่วนได้กลับขึ้นไปอาศัยตามป่าเขาเหมือนเดิม
รวมถึงปู่คออี้ด้วย
ในปี ๒๕๕๔ เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำาการขับไล่ชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่
บางกลอยบนให้กลับลงไปอยู่ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย และยังได้ดำาเนินการ
จับกุมนายนอแอะ บุตรชายปู่คออี้ โดยถูกตั้งข้อหาว่ามีอาวุธปืนไว้ใน
ครอบครอง รวมถึงยังมีการเผาทำาลายทรัพย์สินที่อยู่อาศัย ผลิตผลทาง
การเกษตรถูกเพลิงไหม้เสียหายเป็นจำานวนมาก
หลังจากปู่คออี้และชาวบ้านถูกบังคับให้อพยพย้ายมาอยู่บ้านโป่งลึก
หรือบางกลอยล่างนั้น ทุกคนได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากการจัดสรร
ที่อยู่อาศัย ไม่ได้เป็นไปตามที่สัญญาไว้เช่นเดียวกับที่ทำากินที่มีจำากัด ที่สำาคัญคือ
ผืนดินเหล่านั้นไม่สามารถปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชที่ชาวกะเหรี่ยงปลูกกันมาตั้งแต่
บรรพบุรุษ
ปู่คออี้และชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอกลับ
ไปอยู่ถิ่นฐานเกิดและเติบโตมาบนแผ่นดินแห่งนี้ ซึ่งได้ยืนยันว่ามีการอยู่อาศัย
กันมาตั้งแต่ก่อน ประมวลกฎหมายที่ดินปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ใช้บังคับ และก่อน
ประกาศเป็นเขตอุทยาน ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ จากการพยายามต่อสู้เรียกร้อง
สิทธิ ทำาให้นายบิลลี่หรือนายพอละจี รักจงเจริญ ผู้เป็นหลานชายของปู่คออี้
ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานเพียงคนเดียวที่เขียนและอ่านภาษาไทยได้
ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงเย็นของวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ ก่อนที่
ศาลปกครองกลางจะมีการสืบพยานเพิ่มเติม “บิลลี่” ซึ่งเป็นพยานปากเอกคน
สำาคัญที่จะต้องไปให้ปากคำาต่อศาลวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗
20
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

