Page 24 - สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำคุกถูกจำกัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
P. 24

ยังไม่ถึงห้าปี  เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ซึ่งกลุ่มองค์กรที่มี
                    การกำาหนดระยะเวลาพ้นโทษที่ชัดเจนดังกล่าว ได้ระบุข้อยกเว้นเกี่ยวกับกรณีของผู้ที่เคยได้รับ

                    โทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุก เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้กระทำาโดยประมาท
                    หรือความผิดลหุโทษ จึงเป็นการให้โอกาสกับผู้ที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดในการ

                    เข้าดำารงตำาแหน่งดังกล่าวได้
                          ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน

                    พ.ศ. ๒๕๕๒  มาตรา ๘ บัญญัติว่า “ผู้ตรวจการแผ่นดินต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
                    ดังต่อไปนี้  (๑๐) ไม่เคยต้องคำาพิพากษาให้จำาคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ

                    เว้นแต่เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำาโดยประมาท ความผิด
                    ลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท”  และกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน  ตามพระราชบัญญัติประกอบ

                    รัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๗  บัญญัติว่า  “ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น
                    กรรมการต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้  (๑๐) เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุด

                    ให้จำาคุก เว้นแต่เป็นโทษสำาหรับความผิดที่ได้กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ”  ซึ่งทั้ง ๒ องค์กร
                    มีการกำาหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับกลุ่มองค์กรที่ใช้

                    พระราชบัญญัติที่กำาหนดให้การต้องคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุก เป็นลักษณะต้องห้ามในการเข้ารับ
                    ราชการโดยไม่มีการกำาหนดข้อยกเว้นฯ


                          ๕.๒ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

                              คณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านกฎหมายและการปฏิบัติที่
                    ไม่เป็นธรรมจึงมีมติให้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกลุ่ม

                    องค์กรที่ใช้พระราชบัญญัติหรือระเบียบที่กำาหนดให้การต้องคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุกเป็นลักษณะ
                    ต้องห้ามในการเข้ารับราชการโดยไม่มีการกำาหนดข้อยกเว้นฯ เช่น ข้าราชการพลเรือนในสถาบัน

                    อุดมศึกษา ข้าราชการการเมือง ข้าราชการทหาร เป็นต้น นั้น  ควรมีการพิจารณาทบทวนปรับปรุงและ
                    แก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายแต่ละฉบับให้สอดคล้องกับมิติด้านสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญ

                    แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐  และพันธกรณีระหว่างประเทศ ที่ให้การคุ้มครองและ
                    รับรองไว้  โดยไม่เป็นการจำากัดสิทธิของผู้ที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุกใน

                    การสมัครสอบเข้ารับราชการ  โดยในการกำาหนดข้อยกเว้นต้องมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน และมีความ
                    เป็นธรรม  รวมทั้ง ควรมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการประกอบอาชีพด้วย โดยในการกำาหนด

                    ข้อยกเว้นอาจมีการกำาหนดกรอบระยะเวลาให้กับผู้ที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดให้
                    จำาคุกในการสมัครสอบเข้ารับราชการ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคยได้รับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษา

                    ถึงที่สุดให้จำาคุก ให้สามารถใช้สิทธิในการสมัครเข้ารับราชการและสามารถกลับตนเป็นคนดี เพื่อทำา
                    ประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติต่อไป  ทั้งนี้ ในการพิจารณาดำาเนินการดังกล่าว ควรที่จะได้

                    มีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายและระเบียบในเรื่องนี้สำาหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่น ตลอดจน
                    พนักงานรัฐวิสาหกิจด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน



                                                                                                         23

                                                         สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำาคุกถูกจำากัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29