Page 12 - สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำคุกถูกจำกัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
P. 12

ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕ (บัญญัติทำานองเดียวกันกับมาตรา ๓๖ ข. (๔) แห่งพระราชบัญญัติ
                    ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑) ว่า จะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ในการ

                    กระทำาเป็นเรื่องๆ ไป โดยคำานึงถึงความรังเกียจของสังคมเป็นแนวทางพิจารณาว่า สังคมรู้สึกรังเกียจ
                    ต่อการกระทำานั้นหรือไม่ เพียงใด

                              ๒)  กรณีที่ผู้มีลักษณะต้องห้ามได้รับการอภัยโทษ หรือรับการล้างมลทินในวาระพิเศษ
                    เฉพาะกรณีผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนเคยต้องคำาพิพากษาถึงที่สุดให้จำาคุกและ

                    ต่อมาได้รับการล้างมลทิน  ซึ่งปัจจุบันได้แก่ พระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จ
                    พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พ.ศ. ๒๕๕๐ นั้น  โดยที่มาตรา ๔ แห่ง

                    พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติว่า “ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้
                    กระทำาก่อนหรือในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้

                    ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ”  ดังนั้น หากกรณีที่ผู้มีลักษณะ
                    ต้องห้ามเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ก็ย่อมถือว่าผู้นั้นไม่มีลักษณะ

                    ต้องห้ามในกรณีเป็นผู้เคยต้องรับโทษจำาคุกโดยคำาพิพากษาถึงที่สุดเพราะกระทำาความผิดอาญา
                    ตามมาตรา ๓๖ ข. (๗)   อย่างไรก็ตาม กรณีอาจเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในกรณีเป็นผู้บกพร่อง

                    ในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม ตามมาตรา ๓๖ ข. (๔) ได้ เนื่องจากการล้างมลทินตาม
                    พระราชบัญญัติดังกล่าวนั้น  กฎหมายล้างแต่เฉพาะโทษเท่านั้นหาได้ล้างพฤติการณ์การกระทำาผิดนั้น

                    ด้วยไม่ ซึ่งในการพิจารณายกเว้นลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ก.พ. ได้ใช้แนวทางการพิจารณาตามที่
                    กล่าวไปแล้วตามข้อหารือที่ ๑ ข้างต้น

                              อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นกรณีของผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญ
                    จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยเฉพาะต่อไป


                          ๓.๓ รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ ระเบียบและกฎที่เกี่ยวข้อง
                              เพื่อให้กรณีตามคำาร้องได้มีการพิจารณาในมิติที่กว้างขึ้น โดยได้มีการศึกษาเปรียบเทียบ

                    บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติ กฎ และระเบียบ
                    ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้

                              ๑)  รัฐธรรมนูญแห่งร�ชอ�ณ�จักรไทย พุทธศักร�ช ๒๕๕๐
                                 ม�ตร� ๑๐๒ บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

                    เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
                                 (๕)  เคยต้องคำาพิพากษาให้จำาคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันเลือกตั้ง  เว้นแต่ใน

                    ความผิดอันได้กระทำาโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
                                 ม�ตร� ๑๑๕  บุคคลผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้เป็นผู้มีสิทธิสมัคร

                    รับเลือกตั้งหรือได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา
                                 (๘) เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา ๑๐๒ (๑) (๒) (๓) (๔)

                    (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๑) (๑๒) (๑๓) หรือ (๑๔)



                                                                                                          11

                                                         สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีผู้ที่เคยรับโทษให้จำาคุกถูกจำากัดสิทธิในการเข้ารับราชการ
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17