Page 259 - รายงานโครงการศึกษา เรื่อง การจัดทำตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้นตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
P. 259
181
บทที่ 6
สรุปและข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาตามโครงการนี้คณะผู้ศึกษาได้ข้อสรุปและข้อเสนอแนะดังนี้
6.1 สรุป
ตัวชี้วัดเป็นการใช้ข้อมูล สถิติทางสังคมศาสตร์ รวมทั้งรวมถึงเหตุการณ์ที่หรือสถานการณ์ด้านสิทธิ
มนุษยชนที่เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน และตรวจสอบ
การปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ว่าได้ด าเนินการสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศตามสิทธิ
มนุษยชนในการเคารพ ปกป้อง และท าให้สิทธินั้นเป็นจริงหรือไม่ โดยพิจารณาจากกฎหมาย กลไก นโยบาย
และมาตรการต่างๆ ที่รัฐ ได้ใช้
ตัวชี้วัดที่พัฒนาขึ้นตามกระบวนการการรายงานตามพันธกรณีระหว่างประเทศมุ่งที่จะยกระดับการ
พัฒนาด้านสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง แต่มิใช่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดตัดสินชี้ว่าการด าเนินงานว่าผ่าน
เกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์การละเมิดสิทธิมนุษยชน
ส าหรับประเทศไทย กสม. มีหน้าที่จัดท ารายงานคู่ขนาน เพื่อประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนเพื่อ
เสนอต่อองค์กรระหว่างประเทศที่มีหน้าที่พิจารณารายงานของรัฐบาล ในการรายงานตามกระบวนการ UPR
นั้น คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนได้ใช้สาระแห่งสิทธิที่รับรองโดยปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเป็นฐานใน
การพิจารณาการด าเนินงาน หน้าที่ในการเคารพสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาติ
ในการประเมินการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศนั้น ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้ก่อ
พันธกรณีระหว่างประเทศในฐานะที่เป็นจารีตประเพณีโดยถือว่าสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับรองไว้ในปฏิญญาเป็น
มาตรฐานขั้นต่ าที่มนุษย์ทุกคนพึงมี และรัฐจะต้องด าเนินการเคารพ ปกป้อง และท าให้เกิดขึ้นจริง
การจัดท าตัวชี้วัดสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนจึงเป็นการสร้างเครื่องมือในการ
ตรวจสอบการด าเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลตามที่ประเทศไทยมีพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่าง
ประเทศในการคุ้มครองบุคคล
ตัวชี้วัดตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่คณะผู้ศึกษาจัดท าขึ้นประกอบด้วยตัวชี้วัดทั้งสิ้น
420 ตัว แบ่งเป็นตัวชี้วัดหลัก จ านวน 194 ตัว และตัวชี้วัดรอง จ านวน 226 ตัว หรือ สามารถแบ่งเป็น
ตัวชี้วัดโครงสร้าง 101 ตัว ตัวชี้วัดกระบวนการ 165 ตัว ตัวชี้วัดผลลัพธ์ 154 ตัว