Page 115 - ศัพท์สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนศึกษา
P. 115
GLORIOUS REVOLUTION การปฏิวัติอันเรืองโรจน์
กระบวนการการเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองในประเทศอังกฤษ
ในตอนปลายศตวรรษที่สิบเจ็ด (ค.ศ. 1688 - 1689 หรือ พ.ศ. 2231 - 2232)
หลังจากพระราชินีอลิซาเบท (ที่หนึ่ง) สิ้นพระชนม์ ได้เกิดความขัดแย้ง
ระหว่างกษัตริย์กับรัฐสภาและศาสนจักร ที่มีมูลเหตุมาจากพระเจ้าเจมส์
ที่สอง ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกออกกฎหมายจำากัด
เสรีภาพทางศาสนาของพวกที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่
ของอังกฤษ รัฐสภาจึงร่วมมือกับประชาชนโค่นล้มพระเจ้าเจมส์ที่สอง
และสถาปนาเจ้าชายวิลเลียมขึ้นเป็นกษัตริย์ คือ พระเจ้าวิลเลียมที่สาม
ใน ค.ศ. 1688 (พ.ศ. 2231) และพระเจ้าวิลเลียมที่สามทรงสัญญาว่า
จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิพื้นฐานของพลเมือง (Bill of Rights)
ที่รัฐสภาร่างขึ้นเป็นกฎหมายที่ให้อำานาจรัฐสภาและให้สิทธิเสรีภาพแก่
ชาวอังกฤษมากขึ้น (ดู ENGLISH BILL OF RIGHTS)
การปฏิวัติครั้งนี้ส่งผลให้การปกครองแบบพระมหากษัตริย์มีอำานาจ
เด็ดขาดของอังกฤษสิ้นสุดลงเปลี่ยนมาเป็นระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้
กฎหมายโดยรัฐสภามีอำานาจสูงสุดในทางการเมืองการปกครอง บางครั้ง
เรียกการปฏิวัตินี้ว่าการปฏิวัติที่ไม่เสียเลือดเนื้อ (Bloodless Revolution)
เนื่องจากไม่มีการสู้รบ และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่าง
กว้างขวาง
หลังจากปฏิวัติ รัฐสภาอังกฤษได้ออกกฎหมายให้สิทธิเสรีภาพ
แก่ประชาชนมากขึ้นตามลำาดับ เช่น การประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วย
ขันติธรรมทางศาสนา (Toleration Act) ค.ศ. 1688 (พ.ศ. 2231) ให้เสรีภาพ
ในการนับถือศาสนาแก่พวกโปรเตสแตนต์นิกายต่าง ๆ ที่ไม่ยอมขึ้นต่อนิกาย
แองกลิคันซึ่งเป็นศาสนาประจำาชาติ
การปฏิวัติอันเรืองโรจน์มีผลต่อแนวคิดการเมืองการปกครองในยุโรป
และการพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน
อย่างมาก
104