Page 135 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยสาเหตุการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
P. 135

ตารางวิเคราะห์ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต ารวจละเมิดสิทธิมนุษยชนจ านวน 109 คดี
                                    ผู้ถูกกล่าวหาว่าละเมิด/ผู้
                       ผู้ร้อง/ผู้ถูกละเมิด                                                            ความเห็นคณะกรรมการสิทธิฯ           ความเห็นของคณะผู้วิจัย
            ล าดับ รายงานที่            ละเมิด    จังหวัด วดป.เกิดเหตุ  พฤติการณ์โดยย่อ (ผู้วิจัยสรุป)
                             ชื่อผู้ถูก  ยศ หรือ                                                                  ข้อเสนอแนะของผู้
                      ชื่อผู้ร้อง          ชื่อ                                                    ความเห็นผู้ตรวจสอบ               ความเห็น    ประเภทที่ละเมิด สาเหตุการละเมิด
                             ละเมิด  ชั้นยศ                                                                         ตรวจสอบ
             3  18/2546 นายชยุต    นายชยุต    ร.ต.อ. เชษฐพันธ์     สุราษฎร์  16-19 ม.ค.  ค าร้องเรียน  1. ร.ต.อ.คนดังกล่าว ไม่ได้แสดง  1. เสนอแนะต่อรัฐสภา   1. เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาใช้อ านาจ  1. การจับ  1.1 เจตนาหรือจง
                     ก้องชัยชนะ ชัยชนะ  วิชัยดิษฐ  กับพวก  ธานี  2545  1.  เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด จ.สุราษฎร์ฯ    หลักฐานใด ๆ ว่าตนเองบริสุทธิ์   และคณะรัฐมนตรีให้  ควบคุมตัวผู้ต้องหา 1-3 วันโดยมิ  ใจหรือลุแก่
                      กับ นาง                                 กระท าการข่มขู่บีบบังคับ และท าร้ายร่างกายเพื่อให้ผู้ร้องรับสารภาพ ทั้ง ๆ ที่ได้เปิดโอกาสให้ชี้แจง  แก้ไข ม. 15 พรบ.  ชอบหรือ กม. ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.  อ านาจหรือใช้
                     ฉวีวรรณ                                   เป็นเหตุให้นายชยุตฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีพยานให้ปากค าว่า  ข้อเท็จจริง และน าเสนอ  ป้องกันและปราบปราม  ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด   อ านาจเกินขอบเขต
                     เกิดแก้ว                                 เจ้าหน้าที่ต ารวจมีการกระท าดังกล่าวจริง  พยานหลักฐานถึง 4 ครั้ง โดยไม่ได้ ยาเสพติด ให้สอดคล้อง พ.ศ. 2519 ม. 14 (3) และ 15 ซึ่ง   ไม่ปฏิบัติหน้าที่
                                                              การตรวจสอบ                       แจ้งเหตุผลความจ าเป็นหรือ  กับ ม. 237 รธน. พศ.   บัญญัติไว้เพื่อการสอบสวนเท่านั้น   ตามกฎหมาย
                                                              1. ร.ต.อ.คนดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหวัหน้าชุดปฏิบัติการ  เหตุขัดข้องให้คณะกรรมการสิทธิฯ 2540  และละเว้นการแจ้งสิทธิผู้ต้องหาชั้น  2.1 เจตนาหรือจง
                                                              ได้เช่าบ้านเลขที่เกิดเหตุเป็นสถานส าหรับควบคุมตัวและสอบสวน ทราบ  กลับมีพฤติกรรมข่มขู่และ  2. ให้ ตร. สอบสวน  จับกุมตาม ป.วิ.อาญา ม. 83 และละ 2. การควบคุม  ใจหรือลุแก่
                                                              ผู้ต้องหา  ซึ่งผู้ต้องขังในเรือนจ ากลาง กับจ าเลยที่ถูกเจ้าหน้าที่  หรือห้ามปรามบุคคลอื่นมิให้ไปให้ ข้อเท็จจริงและ  เว้นการแจ้งสิทธิผู้ต้องหาทั้ง ณ ที่จับ  อ านาจหรือใช้
                                                              ต ารวจชุดดังกล่าว ต่างให้การสอดคล้องต้องกันว่าบ้านดังกล่าวเป็น การเป็นพยานต่อคณะกรรมการ  ท าการศึกษาเกี่ยวกับ   และที่ท าการ พงส.โดยผู้ถูกจับไม่มี  อ านาจเกินขอบเขต
                                                              สถานที่ซ้อมท าร้ายร่างกายและ กักขังหน่วงเหนี่ยว รายละ  1-3 วัน  สิทธิฯ  พฤติการณ์ซ้อมท าร้าย  โอกาสแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตน   ไม่ปฏิบัติหน้าที่
                                                              ก่อนน าตัวส่งสถานีต ารวจ โดยไม่แจ้งให้ญาติทราบ รวมทั้งไม่ยอม  ร่างกายด้วยวิธีการ  ไว้วางใจทราบถึงการจับกุมได้ใน  ตามกฎหมาย
                                                              ให้ติดต่อใคร                                       ทรมาน       โอกาสแรก แต่ตาม กม. ยาเสพติด  2.2 ขาดความรู้
                                                              2. ญาติผู้ต้องหาหลายรายให้ปากค ายืนยันว่า ภายหลังที่ผู้ต้องหาถูก  3. ให้ ตร.ด าเนินการ  ให้ จพง.ผู้จับสามารถควบคุมตัวได้  และความเข้าใจ
                                                              จับกุมได้ติดต่อกับสถานีต ารวจท้องที่ แต่ได้รับค าตอบว่าไม่ทราบ  ทางวินัย และด าเนิน  ไม่เกิน 3 วันแต่ผู้จับต้องน าตัวไปให้  หลักกฎหมาย
                                                              ว่าผู้ต้องหาถูกจับจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีการส่งตัวผู้ต้องหา และ  คดีอาญา ร.ต.อ.ดังกล่าว  พงส.ก่อน  และเป็นความผิดฐาน  ระเบียบ ค าสั่ง
                                                              ไม่ทราบว่ามีการน าตัวผู้ต้องหาไปกักขังไว้ที่ใด      กับพวก     กักขังหน่วงเหนี่ยวตาม ป.อ. มาตรา  และข้อบังคับอย่าง
                                                              3. จากการสอบปากค าผู้ต้องหาหลายรายให้การตรงกับว่าถูกท าร้าย     310                        เพียงพอ
                                                              ร่างกาย ณ บ้านหลังดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมชุดดังกล่าวด้วย  2. การท าร้ายร่างกายเพื่อให้ผู้ต้องหา  3.1 เจตนาหรือจง
                                                                                                                             ให้รับการสารภาพหรือการขยายผล  ใจหรือลุแก่
                                                                                                                             ในการจับกุม  เป็นเหตุให้ผู้ร้อง  3. ท าร้ายร่างกาย อ านาจหรือใช้
                                                                                                                             ได้รับอันตรายสาหัสเป็นความผิด  อ านาจเกินขอบเขต
                                                                                                                             ตาม ป.อ. มาตรา 297           ไม่ปฏิบัติหน้าที่
                                                                                                                                                         ตามกฎหมาย
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140