Page 72 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 72
ของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ที่จะไม่ตกอยู่ในอันตรำยจำกกำรตั้งครรภ์ กำรถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลกำร
ตั้งครรภ์ เช่น กำรถูกไล่ออกจำกโรงเรียนเพรำะตั้งครรภ์
เยำวชนไทยยังมีควำมรู้ที่จ ำกัดในเรื่องเพศศึกษำ เพรำะกำรสอนเพศศึกษำในโรงเรียนส่วนใหญ่จะ
เน้นเฉพำะเนื้อหำกำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนสรีระและร่ำงกำย และยังมีกำรถ่ำยทอดเนื้อหำเพศศึกษำที่ไม่
สม ่ำเสมอด้วย ครูส่วนมำกยอมรับว่ำ รู้สึกอึดอัดใจที่ต้องสอนเพศศึกษำให้แก่วัยรุ่น ครูผู้สอนบำงคนจึง
ปรับเปลี่ยนเนื้อหำในหลักสูตรเพศศึกษำไปตำมควำมคิดเห็นของตน หรือบำงครั้งก็อำจตัดเนื้อหำบำงส่วน
ทิ้งไปเลย ส ำหรับบิดำมำรดำของวัยรุ่นนั้น มำกกว่ำร้อยละ ๗๐ เห็นว่ำ ไม่ควรสอนเพศศึกษำในโรงเรียน แต่
ก็มีบิดำมำรดำเพียงร้อยละ ๑๐ เท่ำนั้น ที่มีควำมพร้อมในกำรให้ค ำแนะน ำเรื่องเพศแก่บุตรของตน และ
ประมำณเกือบ ๑ ใน ๓ เชื่อว่ำเพศศึกษำจะท ำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น (วัลยำ ธรรมพนิชวัฒน์,
๒๕๕๓, น. ๕-๙) นอกจำกนี้เนื้อหำกำรสอนเพศศึกษำพยำยำมให้วัยรุ่นชะลอกำรมีเพศสัมพันธ์หรือมี
พฤติกรรมทำงเพศลดลง หรือใช้ถุงยำงอนำมัยหรือยำคุมก ำเนิดเพิ่มขึ้น และทรำบวิธีกำรป้ องกันโรคเอดส์
โรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ และกำรตั้งครรภ์ ตระหนักถึงควำมเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีจำกกำรมี
เพศสัมพันธ์ปรับเปลี่ยนค่ำนิยมทำงเพศ มีควำมเชื่อมั่นมำกขึ้นที่จะใช้ถุงยำงอนำมัย หรือปฏิเสธกำรมี
เพศสัมพันธ์ที่ไม่เต็มใจ และมีควำมตั้งใจที่จะงดเว้นกำรมีเพศสัมพันธ์จ ำกัด จ ำนวนคู่นอน หรือใช้ถุงยำง
อนำมัยเมื่อ มีเพศสัมพันธ์ (วัลยำ ธรรมพนิชวัฒน์, ๒๕๕๓, น. ๕-๙) แต่ไม่ได้ให้ควำมรู้เกี่ยวกับสิทธิ
อนำมัยเจริญพันธุ์ สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับสุขภำวะทำงเพศ สิทธิ (Rights) ที่ปรำกฏในเนื้อหำกำรเรียน
กำรสอนคือ สิทธิที่จะปฎิเสธหรือป้ องกันกำรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร บนพื้นฐำนของแนวคิด
รักนวลสงวนตัว (บุญยิ่ง มำนะบริบูรณ์ และคณะ, ๒๕๔๙, น. ๖๕๔-๖๕๗)
หน่วยงานและองค์กรต่างๆ
สภากาชาด
เหมือนกับวิจัยศึกษำของสุวชัย อินทรประเสริฐ และ สุรศักดิ์ ฐำนีพำนิชสกุล เรื่อง “กำรตั้งครรภ์ใน
วัยรุ่น” (๒๕๓๙) และ กำรศึกษำของรพีพรรณ วิบูลย์วัฒนกิจและคณะเรื่อง “ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงเจตคติ
ต่อกำรตั้งครรภ์และแบบแผนกำรด ำเนินชีวิตในระยะตั้งครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น” (๒๕๕๐) สภำกำชำด
ยังคงมีควำมเชื่อและมำยำคติว่ำ กำรตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอำยุ ๑๓-๑๙ ป ีในปัจจุบันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ไม่เพียง
ท ำให้ต้องหยุดหรือออกจำกระบบกำรศึกษำ ยังเสี่ยงต่อกำรติดโรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ รวมไปถึง
HIV/AIDS เสี่ยงต่อกำรเกิดภำวะโรคแทรกซ้อนระหว่ำงตั้งครรภ์และหลังคลอด เช่น ภำวะโลหิตจำงในหญิง
ตั้งครรภ์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกับทำรกที่เกิดมำจำกเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ที่เกิดมำมักเผชิญกับภำวะเติบโต
ช้ำ น ้ำหนักน้อย ทุพพลภำพ สมองช้ำ มีควำมเจ็บป่วยเรื้อรัง รวมทั้งปัญหำกำรคลอดก่อนก ำหนด ถูกแม่
วัยรุ่นทอดทิ้ง ไม่ได้รับกำรเลี้ยงดูที่มีคุณภำพ ส่งผลให้ประเทศขำดบุคลำกรที่มีคุณภำพซึ่งสภำกำชำดถือว่ำ
๗๑