Page 116 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ สิทธิชุมชนในการจัดสรรทรัพยากรน้ำโดยใช้แนวทางสันติวิธี : กรณีศึกษาพื้นที่ต้นน้ำของประเทศไทย
P. 116
99
ตารางที่ 5.3 ความถี่และค่าร้อยละข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ของผู้ตอบแบบสอบถาม
พื้นที่ลุ่มน้้าชี จังหวัดชัยภูมิ (ต่อ)
ข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ จ านวน (n) ร้อยละ (%)
3. แหล่งน าดื่มของครอบครัว
3.1 ซื้อน้้าขวด 271 67.8
3.2 น้้าฝน 71 17.8
3.3 ต้มน้้าบาดาล 4 1.0
3.4 ต้มน้้าฝนหรือน้้าบาดาล 3 0.8
3.5 ซื้อน้้าจากตู้หยอดเหรียญ 49 12.3
3.6 มีเครื่องกรองน้้าที่บ้าน 0 0
3.7 ไม่ตอบ 2 0.5
รวม 400 100
4. แหล่งน าเพื่อการเกษตร
4.1 น้้าฝน 152 38.0
4.2 น้้าจากคลองชลประทาน 52 13.0
4.3 ขุดบ่อ/บาดาล 68 17.0
4.4 ผันน้้าจากแหล่งน้้าสาธารณะ 51 12.8
4.5 อื่น ๆ เช่น ไม่ได้ท้าเกษตร 69 17.3
4.6 ไม่ตอบ 8 2.1
รวม 400 100
จากตารางพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีระยะห่างระหว่างบ้านและแหล่งน้้า 1-2
กิโลเมตร ร้อยละ 73.6 รองลงมาคือมีระยะห่างตั้งแต่ 5 กิโลเมตรขึ้นไป ร้อยละ 13.5 โดยส่วนมากมี
กรรมสิทธิในที่ดินที่อยู่อาศัยและท้ากิน ร้อยละ 85.3 ส่วนใหญ่มีกรรมสิทธิ์ขนาดพื้นที่บ้านที่อยู่อาศัย
ระหว่าง 1-2 งาน ร้อยละ 59.3 และมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินท้ากินค่อนข้างน้อย โดยพบว่ามีที่ดินท้ากินน้อย
กว่า 1 ไร่ ร้อยละ 29.0 แต่ขณะเดียวกันก็พบว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินมากกว่า 20 ไร่ ถึงร้อยละ 22.3 ซึ่ง
ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินท้ากินคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม เหล่านี้แสดงถึงช่องว่าง
ระหว่างสัดส่วนการถือครองที่ดินที่แตกต่างกันอย่างมาก ในด้านแหล่งน้้าดื่มของครอบครัว ส่วนมาก
มักจะซื้อน้้าดื่ม โดยซื้อน้้าขวด ร้อยละ 67.8 ซื้อน้้าจากตู้หยอดเหรียญ ร้อยละ 12.3 และดื่มน้้าฝน
ร้อยละ 17.8 ด้านแหล่งน้้าในการท้าการเกษตร ส่วนใหญ่ใช้น้้าจากน้้าฝน ร้อยละ 38.0 และใช้น้้าจาก
การขุดบ่อ/บาดาล ร้อยละ 17.0 ส่วนน้้าจากคลองชลประทานมีการใช้เพียงร้อยละ 13.0