Page 43 - รายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชุดที่ 3 (วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ถึง 25 พฤษภาคม 2564)
P. 43

มีนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ ในการนี้   เนื่องจากสอดคล้องกับหลักการปารีสว่าด้วยสถานะ
              กสม. ได้รวบรวมและจัดท�าความเห็นและข้อเสนอแนะ ของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อการส่งเสริม           1
              ต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ไปยังคณะกรรมการร่าง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวได้รับ
              รัฐธรรมนูญ ดังนี้                                การพิจารณาโดยการบัญญัติองค์ประกอบของคณะกรรมการ      2
                                                               สรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในรัฐธรรมนูญ
                 ๑)  หน้าที่และอ�านาจของ กสม. ตามร่างรัฐธรรมนูญฯ   แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๑๗    3
              ที่บัญญัติให้ กสม. มีหน้าที่ในการชี้แจงและรายงานข้อเท็จ และ พ.ร.ป. กสม. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑ โดยก�าหนดให้มี

              จริงที่ถูกต้องโดยไม่ชักช้าในกรณีมีรายงานสถานการณ์ ผู้แทนจากองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ผู้แทนสภา
              สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็น วิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพ      4
              ธรรมนั้น มีความเห็นว่า หน้าที่และอ�านาจดังกล่าว  สื่อมวลชน และอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งสอน
              ไม่สอดคล้องกับหลักการปารีสเกี่ยวกับสถานะของสถาบัน หรือท�างานวิจัยหรือท�างานด้านสิทธิมนุษยชน ร่วมเป็น   5
              สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครอง  คณะกรรมการสรรหาด้วย
              สิทธิมนุษยชน เนื่องจาก กสม. ต้องมีความเป็นอิสระในการ
              ปฏิบัติหน้าที่ มีโครงสร้างที่เหมาะสมที่จะท�าให้สามารถ  ๓)  หลักการสิทธิมนุษยชนทั่วไปที่ควรบัญญัติไว้
              ด�าเนินกิจกรรมได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมี ในร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการรับรองและคุ้มครอง
              งบประมาณอย่างเพียงพอ การมีงบประมาณดังกล่าวเพื่อ สิทธิมนุษยชนของประชาชนชาวไทย ให้มีมาตรฐาน
              ให้สถาบันแห่งชาติสามารถมีเจ้าหน้าที่และอาคารสถานที่  ไม่ต�่ากว่าที่เคยมีการบัญญัติและรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ

              เป็นของตนเอง เพื่อความเป็นอิสระจากรัฐบาล และ  แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ รัฐธรรมนูญ
              ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมทางการเงินที่อาจจะกระทบต่อ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ รวมถึงหลัก
              ความเป็นอิสระของสถาบันได้ ประกอบกับภายใต้กรอบ สิทธิมนุษยชนสากลทั่วไป
              การด�าเนินงานดังกล่าว สถาบันแห่งชาติจะด�าเนินการ
              พิจารณาปัญหาใด ๆ ที่อยู่ภายใต้อ�านาจหน้าที่อย่างเป็น  ๔)  กฎหมายว่าด้วย กสม. ควรเป็นกฎหมายประกอบ
              อิสระ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะได้รับการเสนอโดยรัฐบาลหรือเป็น รัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับกฎหมายขององค์กรอิสระอื่น
              เรื่องที่สถาบันแห่งชาติหยิบยกขึ้นพิจารณาเอง โดยไม่ต้อง เพื่อเป็นมาตรการที่มีสภาพบังคับหรือควบคุมให้มี

              ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีอ�านาจเหนือกว่า ตามที่สมาชิก การจัดท�ากฎหมายที่จ�าเป็นต้องตราขึ้นเพื่ออนุวัติ
              ของสถาบันหรือผู้ร้องเรียนเสนอ                    การตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จตาม
                                                               ระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญก�าหนดไว้ และเป็นมาตรฐาน      บทนำ�
                 ในประเด็นนี้ กสม. ได้เสนอให้ตัดหน้าที่และอ�านาจ เดียวกันกับองค์กรอิสระอื่นด้วย ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ
              ตามมาตรา ๒๔๗ (๔) ออกเพื่อมิให้เกิดข้อครหาว่า กสม.  ร่างรัฐธรรมนูญได้เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าวข้างต้น
              มีหน้าที่ในการชี้แจงหรือโต้แย้งรายงานแทนรัฐบาล   จึงได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๗ (๑๐) ของรัฐธรรมนูญ
              ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงหลักความเป็นอิสระตามหลักการ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
              ปารีสว่าด้วยสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อ
              การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน แต่คณะกรรมการ ๑.๕.๒ การให้ความเห็นและข้อเสนอแนะ

              ร่างรัฐธรรมนูญไม่เห็นด้วย ยังคงบัญญัติหน้าที่และอ�านาจ ต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
              ดังกล่าวให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต่อไป   ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
                                                               พ.ศ. ....
                 ๒)  องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการ          โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
              สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ควรก�าหนดให้มีองค์ประกอบ  ๒๕๖๐ มาตรา ๑๓๐ (๑๐) มาตรา ๒๔๖ มาตรา ๒๔๗
              แตกต่างจากคณะกรรมการสรรหากรรมการในองค์กร และมาตรา ๒๖๗ (๑๐) บัญญัติให้มีการตรา พ.ร.ป. กสม.

              อิสระอื่น  โดยเทียบเคียงกับองค์ประกอบของคณะ เพื่อก�าหนดคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การสรรหา
              กรรมการสรรหาตาม พ.ร.บ. กสม. ๒๕๔๒ มาตรา ๘  การพ้นจากต�าแหน่ง  หน้าที่และอ�านาจ  ตลอดจน



                                                                                                                 41
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48