Page 33 - พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
P. 33
ต่อคณะกรรมการเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วและไม่มีลักษณะบังคับ
ให้ต้องเปิดเผยตัวตนของผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียน เว้นแต่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับ
ประโยชน์ของผู้ร้องเรียนเป็นการเฉพาะตัว ซึ่งจำาเป็นต้องทราบตัวบุคคล
เพื่อประโยชน์ในการติดต่อขอข้อมูลหรือแจ้งผลการดำาเนินการ
ในการดำาเนินการตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นกรณีที่มีผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียน
เมื่อผลการพิจารณาเป็นประการใด ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้แจ้งหรือ
ผู้ร้องเรียนทราบด้วย เว้นแต่ผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียนมิได้แจ้งสถานที่อยู่ที่จะติดต่อได้
มาตรา ๓๕ ในการตรวจสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงตามมาตรา ๓๔
คณะกรรมการอาจดำาเนินการโดยประการใด ๆ ซึ่งต้องไม่สร้างขั้นตอน
หรือเป็นภาระแก่บุคคลหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมากเกินจำาเป็น
และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องชี้แจง
และแสดงพยานหลักฐานประกอบคำาชี้แจงของตนได้ตามสมควร
เพื่อประโยชน์ในการดำาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการ
มีอำานาจดังต่อไปนี้ ซึ่งต้องกระทำาเท่าที่จำาเป็น
(๑) ขอให้หน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงาน
ดังกล่าว หรือบุคคลใด มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ความเห็นในการปฏิบัติงาน
หรือมาให้ถ้อยคำา หรือส่งวัตถุ เอกสาร หลักฐาน หรือพยานหลักฐานอื่น
ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำาหนด
ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลใดไม่ดำาเนินการตามที่คณะกรรมการร้องขอ
คณะกรรมการจะออกคำาสั่งให้หน่วยงานหรือบุคคลนั้นดำาเนินการดังกล่าวก็ได้
๒๘