Page 4 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง โครงการศึกษาวิจัยปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
P. 4

ข



                  คุ้มครองบุคคลจากการถูกเลือกปฏิบัติที่อาจนํามาใช้ในการแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมของ
                  บุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีได้ สําหรับประเทศไทยมีบทบัญญัติที่รับรองเป็นหลักการรวมๆ ไว้ในรัฐธรรมนูญ
                  แห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับพุทธศักราช ๒๕๔๐ และ ๒๕๕๐ เท่านั้น อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญและศาล

                  ปกครองเคยมีคําวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมที่อาจนํามาใช้เป็นแนวทางในการคุ้มครองผู้ที่มี
                  อาการตาบอดสีจากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมได้
                            ผลจากการศึกษาวิจัยได้นําไปสู่ข้อเสนอแนะหรือข้อเสนอในการปูองกันและแก้ไขปัญหาการเลือก
                  ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษา ได้แก่
                  1) การกําหนดเป็นนโยบายให้เด็กและเยาวชนที่อยู่ในวัยศึกษาได้รับการตรวจสภาวะอาการตาบอดสีของตนเอง

                  เพื่อจะได้สามารถวางแผนการศึกษาต่อ รวมถึงการประกอบอาชีพในอนาคตได้อย่างเหมาะสม 2) การทบทวน
                  หลักเกณฑ์การกําหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา รวมทั้งสถาบันการศึกษาภายใต้
                  สังกัดของหน่วยทหารและตํารวจ โดยควรจํากัดการเข้าศึกษาของบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีเฉพาะในสาขาที่

                  อาการตาบอดสีจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนจริงๆ เท่านั้น รวมทั้งควรมีการระบุเหตุผลความจําเป็นดังกล่าว
                  ให้ชัดเจนด้วย 3) การมีมาตรการในการคุ้มครองบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีจากการถูกเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน
                  อย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะในลักษณะงานที่ไม่มีความจําเป็นต้องคัดกรองเรื่องสีหรืออาการตาบอดสีไม่ส่งผล
                  กระทบต่องานที่ทํา และ 4) การทบทวนว่าการกําหนดให้ผู้ขอใบอนุญาตขับรถต้องทดสอบตาบอดสีว่ามีความจําเป็น

                  หรือไม่อย่างไร โดยขอความเห็นและคําปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาว่าบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสี
                  ในลักษณะใดที่สามารถขับรถได้และอาการในลักษณะใดที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่เองหรือผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ
                  และปรับแบบทดสอบผู้ขอรับในอนุญาตโดยการทดสอบควรวัดอาการตาบอดสีเฉพาะเท่าที่จําเป็นต่อการขับรถ
                  เท่านั้น ไม่ควรวัดละเอียดแบบการตรวจตาบอดสีทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะสําหรับสํานักงานคณะกรรมการ

                  สิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการผลักดันหรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดําเนินการให้มีการออกกฎหมาย
                  ห้ามการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลผู้ที่มีอาการตาบอดสีโดยออกเป็นกฎหมายกลางที่ใช้ในการดูแลคุ้มครอง
                  การถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่ธรรมทั้งทางตรงและทางอ้อมของกลุ่มบุคคลด้อยโอกาสในทุกกรณีที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง
                  ตามกฎหมายเฉพาะกลุ่ม โดยบัญญัติให้ครอบคลุมถึงบุคคลผู้มีอาการตาบอดสี รวมทั้งควรมีการกําหนดหน่วยงาน

                  รับผิดชอบตามกฎหมายด้วย
   1   2   3   4   5   6   7   8   9