Page 204 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 204

๑๔





                  อนุสัญญานี้โดยรัฐใดรัฐหนึ่ง คณะกรรมการฯ จะรับคํารองเรียนที่เกี่ยวกับรัฐภาคีที่เกี่ยวกับรัฐภาคีที่มิไดทํา
                  การประกาศเชนวามิได



                  ๒.  ใหคณะกรรมการฯ ถือวาคํารองเรียนใดที่ไมปากฎนามผูสง หรือที่ตนเห็นวาเปนการใชสิทธิที่จะยื่นคํา

                  รองเรียนเชนวาโดยมิชอบ หรือขัดตอบทบัญญัติของอนุสัญญานี้ เปนสิ่งที่จะรับไวพิจารณามิได


                  ๓.  ภายใตบังคับของบทบัญญัติทั้งปวงของวรรค ๒ ใหคณะกรรมการฯ นําคํารองเรียนที่มีถึงตนเขามาสู

                  ความรับทราบของรัฐภาคีแหงอนุสัญญานี้ที่ไดทําการประกาศตามวรรค ๑ และซึ่งตองหาวาไดละเมิด

                  บทบัญญัติใดของอนุสัญญานี้ รัฐผูรับตองยื่นคําอธิบายทั้งปวงเปนลายลักษณอักษรหรือคําแถลงตางๆที่จะ

                  ใหความกระจางเกี่ยวกับเรื่องนี้และการเยียวยาที่รัฐนั้นไดกระทําไปแลวหากมีตอคณะกรรมการฯ ภายในหก
                  เดือน



                  ๔.  ใหคณะกรรมการฯ พิจารณาคํารองเรียนทั้งปวงที่ไดรับตามขอนี้ โดยอาศัยขอสนเทศทั้งปวงที่สงมาให

                  ตนโดยหรือในนามของปจเจกบุคคลและโดยรัฐภาคีที่เกี่ยวของ


                  ๕.  คณะกรรมการฯ ตองไมพิจารณาบรรดาคํารองเรียนใดจากปจเจกบุคคลตามขอนี้ เวนแตจะแนใจแลว

                  วา

                   (ก) เรื่องเดียวกันนี้มิไดถูกตรวจสอบ หรือกําลังอยูระหวางการถูกตรวจสอบตามกระบวนพิจารณาของ
                  การสืบสวนสอบสวน หรือกระบวนการระงับขอพิพาทระหวางประเทศอื่นอยู

                   (ข) ปจเจกบุคคลดังกลาวไดใชการเยียวยาภายในทั้งหมดที่มีอยูจนถึงที่สุดแลว สิ่งนี้ไมถือวาเปน

                  กฎเกณฑหากการใชการเยียวยาเหลานั้นยืดเยื้อออกไปนาน โดยไมสมเหตุสมผล หรือไมนาจะทําใหเกิดการ

                  บรรเทาทุกขอยางมีประสิทธิผลตอผูที่เปนผูเสียหายจากการละเมิดอนุสัญญานี้


                  ๖.  ใหคณะกรรมการฯ จัดประชุมลับเมื่อพิจารณาคํารองเรียนทั้งปวงตามขอนี้



                  ๗.  ใหคณะกรรมการฯ สงขอคิดเห็นทั้งปวงของตนไปใหรัฐภาคีที่เกี่ยวของและปจเจกบุคคลนั้น



                  ๘.  บทบัญญัติของขอนี้จะมีผลบังคับใชเมื่อรัฐภาคีของอนุสัญญานี้ จํานวนหารัฐไดทําการประกาศตาม
                  วรรค ๑ ของขอนี้แลว ใหรัฐภาคีมอบคําประกาศทั้งปวงเหลานั้นใหเลขาธิการสหประชาชาติเก็บรักษาไว

                  โดยเลขาธิการฯ ตองสงสําเนาคําประกาศเหลานั้นไปใหรัฐภาคีอื่นๆ คําประกาศนี้สามารถถูกเพิกถอนเมื่อไร

                  ก็ได โดยการแจงใหเลขาธิการฯ ทราบ การเพิกถอนเชนวาจะไมมีผลกระทบตอการพิจารณาในเรื่องใดซึ่ง
   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209