Page 93 - คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหลักสิทธิมนุษยชน
P. 93

สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ




                             (๓)  และให้นำาบทบัญญัติของ ป.วิ.อ. ดังกล่าวในวรรคสอง
            มาใช้บังคับ (ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแจ้งแก่ผู้มีหน้าที่ไปทำาการ

            ชันสูตรพลิกศพทราบ และก่อนการชันสูตรพลิกศพให้พนักงานสอบสวน
            แจ้งให้สามี ภริยา บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือ
            ญาติของผู้ตายอย่างน้อยหนึ่งคนทราบเท่าที่จะทำาได้)

                             (๔)  เมื่อได้มีการชันสูตรพลิกศพตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕๐
            วรรคสามแล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งพนักงานอัยการเข้าร่วมกับพนักงาน
            สอบสวน ทำาสำานวนชันสูตรพลิกศพให้เสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่

            ได้รับแจ้ง
                             (๕)  ถ้ามีความจำาเป็นให้ขยายระเวลาออกไปได้ไม่เกิน
            สองครั้ง ครั้งละสามสิบวัน แต่ต้องบันทึกเหตุผลและความจำาเป็นในการขยาย

            ระยะเวลาทุกครั้งไว้ในสำานวนชันสูตรพลิกศพ สำาหรับในส่วนของตำารวจ
            ในภาคต่างๆ ต้องปฏิบัติตามหนังสือ ที่ มท ๑๙๘๕๐/ ๒๕๐๑ ลงวันที่ ๑๒
            ธันวาคม ๒๕๐๑ และ ที่ มท ๐๓๐๗.๑/ว ๑๐๘ ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๑ ด้วย


                     ๓.๖.๖  แนวทางปฏิบัติกรณีแพทย์เป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีอาญา

                     เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยร้องเรียนต่อแพทยสภา
            หรือแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าทำาการ

            ตรวจรักษาผู้ป่วยจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต จากการตรวจรักษามากขึ้น
            สำานักงานตำารวจแห่งชาติจึงได้มีหนังสือ (โปรดดู หนังสือสำานักงานตำารวจ
            แห่งชาติ ที่ ๐๐๓๑.๒๑๒/ว ๙๑ ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๙) กำาหนด
            แนวทางการดำาเนินคดีอาญากรณีแพทย์ถูกกล่าวหาว่าทำาการตรวจรักษา

            ผู้ป่วยจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ให้มีมาตรฐานเป็นไปในทางเดียวกัน
            เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ดังนี้






                                          69
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98