Page 119 - กฎหมายและระเบียบงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
P. 119
๒
ข้อ ๕ การเดินทางของประธานกรรมการทุกกรณี ให้อยู่ในดุลพินิจของประธานกรรมการ
การเดินทางภายในประเทศของกรรมการ ให้อยู่ในดุลพินิจของกรรมการ
การเดินทางไปต่างประเทศของกรรมการ ให้ประธานกรรมการเป็นผู้มอบหมายหรือให้ความเห็นชอบ
ให้ผู้เดินทางไปต่างประเทศรายงานผลการเดินทางให้คณะกรรมการทราบด้วย
ข้อ ๖ การเดินทางไปประชุมหรือสัมมนาในต่างประเทศของประธานกรรมการหรือกรรมการ
ซึ่งได้รับเชิญจากองค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศโดยผู้เชิญเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
ให้ผู้เดินทางรายงานผลการประชุมหรือสัมมนาตามวรรคหนึ่งให้คณะกรรมการทราบด้วย
ข้อ ๗ ให้สำนักงานดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ประธานกรรมการและกรรมการ
การเดินทางของประธานกรรมการและกรรมการที่ผู้เชิญเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ หากผู้เดินทาง
ต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน ให้ผู้เดินทาง เลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการของผู้เดินทาง หรือข้าราชการ
สำนักงานที่ต้องเดินทางด้วย แล้วแต่กรณี มีสิทธิยืมเงินเพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
เมื่อผู้เดินทางได้รับค่าใช้จ่ายคืนจากผู้เชิญ ให้คืนเงินดังกล่าวให้สำนักงานภายในสิบห้าวันนับแต่
วันที่ได้รับคืนหรือวันที่กลับถึงสำนักงาน แล้วแต่กรณี
ข้อ ๘ ให้นำพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการและระเบียบกระทรวงการคลัง
ซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานกรรมการ
และกรรมการตามระเบียบนี้โดยอนุโลม โดยให้ประธานกรรมการได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับรองนายกรัฐมนตรี
และกรรมการได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับรัฐมนตรี เว้นแต่ เบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร
ให้เบิกได้ในลักษณะเหมาจ่ายในอัตราวันละสี่ร้อยบาท
ข้อ ๙ การใดที่ได้ดำเนินการไปก่อนระเบียบนี้มีผลใช้บังคับและยังไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการ
ต่อไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบหรือประกาศที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะแล้วเสร็จ
ข้อ ๑๐ ให้ประธานกรรมการรักษาการตามระเบียบนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๖
พรประไพ กาญจนรินทร์
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
113