Page 5 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
P. 5
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ 3
ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2565
ค�ำน�ำ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2560 มีบทบาทหน้าที่ตามหลักการว่าด้วยสถานะของสถาบันแห่งชาติเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
หรือหลักการปารีส ซึ่งก�าหนดหน้าที่ของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในการเสนอความเห็น ค�าแนะน�า ข้อเสนอแนะ
หรือรายงานในเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อรัฐบาล รัฐสภา หรือองค์กรที่มีอ�านาจ
หน้าที่ในลักษณะของการจัดท�ารายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน และก�าหนดมาตรฐานของสถาบันฯ ที่ส�าคัญ
ในการเฝ้าระวังสถานการณ์สิทธิมนุษยชน เพื่อประเมินและจัดท�ารายงานประจ�าปี และเผยแพร่รายงาน รวมทั้งกระบวนการ
ติดตามประเมินผลตามข้อเสนอแนะดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้น�าแนวทางต่าง ๆ มาใช้ปฏิบัติ
ได้อย่างเหมาะสมอันจะสร้างให้เกิดการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน ดังนั้น การจัดท�ารายงานสถานการณ์
สิทธิมนุษยชนของประเทศจึงเป็นหน้าที่ส�าคัญอย่างยิ่งของ กสม. ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่และอ�านาจที่ก�าหนดในรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 247 (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (2) ประกอบมาตรา 33 มาตรา 40 และมาตรา 44 ที่บัญญัติให้ กสม.
เฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศอย่างต่อเนื่อง และให้จัดท�ารายงานดังกล่าว
เป็นประจ�าทุกปีให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันสิ้นปีปฏิทินเพื่อเสนอต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี และเผยแพร่
ต่อประชาชน โดยต้องค�านึงถึงความถูกต้อง เป็นธรรม และผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นส�าคัญ
รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยฉบับนี้ จัดท�าขึ้นจากกระบวนการเฝ้าระวัง
และติดตามเหตุการณ์สิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในประเทศ ระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม 2565 โดยส�านักงาน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในฐานะหน่วยงานสนับสนุนการด�าเนินงานของ กสม. ได้รวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริง
จากแหล่งข้อมูลเปิดทั่วไป และจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่และอ�านาจของ กสม. ทั้งในส่วนข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ
แถลงการณ์ต่อเหตุการณ์ส�าคัญ การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในประเด็นสิทธิต่าง ๆ ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กร
ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ รวมทั้งการจัดเวทีสมัชชาสิทธิมนุษยชนซึ่งจัดขึ้นในปี 2565 เป็นครั้งแรก จากนั้นจึงน�า
ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาประมวลเป็นสถานการณ์ และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินว่า รัฐได้เคารพหรือคุ้มครอง
สิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญ กฎหมายภายในประเทศ สนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ จากนั้นจึงจัดท�าเป็นรายงานโดยสรุป
ทั้งนี้ ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 คลี่คลายลงในปี 2565 รัฐได้มีนโยบาย/มาตรการ
ในการแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังพบประเด็นปัญหาส�าคัญจากการติดตามเฝ้าระวังและ
การรับเรื่องร้องเรียนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กสม. โดยแบ่งเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนในแต่ละด้านประกอบด้วย
สถานการณ์ ปัญหาหรืออุปสรรค การประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน
001-234 V9 CS6.indd 3 3/14/23 8:40 PM

