Page 50 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 50

อย่างแท้จริง ที่เราเป็นนักเกษตรกรรม กสิกรรม ถ้าขาดต้นไม้ ขาดป่า เราก็ขาด
                        ความชุ่มชื้น ความชุ่มชื้นนี้หมายถึง ฝนตกต้องตามฤดูกาล ต้นไม้นี้เป็นของ
                        มีประโยชน์มาก  เขาจะระเหยความชุ่มชื้น  ขึ้นไปบนท้องฟ้า  ไปผสมกับ

                        ส่วนประกอบในท้องฟ้า ทำาให้มีฝนตกต้องตามฤดูกาล และเมื่อฝนฟ้าตกลงมาเขา
                        ก็จะเก็บนำ้าไว้ที่ตัวต้นไม้ และก็ในรากทำาให้เกิดนำ้าใต้ดินที่สมบูรณ์ อย่างที่เวลาเรา
                        ขุดนำ้าที่ผืนดินเราก็จะได้นำ้าอย่างสมบูรณ์  แม้ว่าฝนจะแล้งไปชั่วระยะหนึ่ง

                        เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นนิมิตหมายที่คนไทยตื่นตัวรู้จักว่านำ้าเป็นส่วนสำาคัญ
                        ในโลก  อันที่จริงแล้ว  นักวิชาการทั่วโลกพูดว่า  นำ้านี้เป็นของจำากัดในโลกนี้
                        ไม่ว่าประเทศใดทั้งนั้น และต้นไม้นี้เอง เป็นปัจจัยสำาคัญที่ทำาให้แผ่นดินชุ่มชื้น

                        และก็เป็นปัจจัยที่ทำาให้ฝนฟ้าตก เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลาย คงจะได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่จะ
                        พูดว่า สมัยนี้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำาให้การเพาะปลูกลำาบาก ประเทศไทย
                        เรามีชื่อเสียงมานาน ในฐานะที่ว่า เป็นประเทศที่สามารถผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร

                        เลี้ยงตนเอง เรามีข้าวบริโภค เรามีอาหารต่างๆ เลี้ยงตัวเอง ซึ่งข้าพเจ้าอยากให้
                        ท่านทั้งหลายทราบว่า ความสำาเร็จอันนี้ ไม่ใช่ของง่าย เดี๋ยวนี้ทั่วโลกหลายประเทศ
                        หยุดการเป็นประเทศที่ผลิตอาหารเลี้ยงตัวเอง ต้องสั่งซื้อ ต้องนำามาจากประเทศ
                        ต่างๆ ซึ่งทำาให้การตัดสินใจของประเทศนั้นๆ ไม่เป็นอิสระเสรีภาพเท่าที่ควร

                        เพราะฉะนั้น  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ถือว่าวันนี้เป็นวันที่นิมิตดี
                        ท่านทั้งหลาย  ราษฎรของประเทศไทย  ลุกขึ้นมาร่วมกันรักษาทรัพยากรที่

                        หายากที่สุดในโลก และไม่มีวันที่จะเพิ่มขึ้นในโลกนี้คือ นำ้า นำ้าที่เป็นสายธาร
                        แห่งชีวิต  นำ้าที่เป็นผู้ชุบชีวิตเราตั้งแต่ก่อนเราเกิด  เวลาที่เราอยู่ในท้องแม่
                        เราต้องลอยอยู่ในนำ้า เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนที่จะเกิดมีแก่ชีวิตของ
                        พวกเราที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ อยู่ เพราะฉะนั้น ในการที่ท่านมีความปรารถนาดีที่จะ

                        พิทักษ์ทรัพยากรที่สำาคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์ ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านทั้งหลาย
                        ประสบความสำาเร็จ สมดั่งประสงค์ทุกประการซึ่งความสำาเร็จของท่าน หมายถึง
                        ความสำาเร็จของประเทศไทยและคนไทยในอนาคตนั่นเอง ซึ่งบัดนี้ คนทั้งหลาย

                        ไม่ทราบว่าที่เราตัดป่า  เราทำาลายแหล่งชีวิตของเรา  ข้าพเจ้าจึงเลือกคำาว่า
                        พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต”

                        พระราชเสาวนีย์ดังกล่าว ได้ประจักษ์ถึงพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

               พระบรมราชินีนาถ  ทรงแน่วแน่  มีพระราชประสงค์ให้  คน  กับ  ป่า  ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
               ได้อย่างสันติสุข ทำาให้ราษฎรทุกหมู่เหล่า ต่างสำานึกในพระมหากรุณาธิคุณ ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน
               อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ใกล้ชุมชน เป็นผลให้ป่าไม้ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มรักษาไว้ได้มากขึ้น

               จึงพระราชทานแนวพระราชดำาริ ให้ราษฎรอยู่ร่วมกับป่าไม้อย่างสันติสุข พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
               โดยชุมชนหมู่บ้าน ได้มีการจัดตั้งองค์การในการร่วมกันดูแลรักษาป่าและสภาพแวดล้อมแหล่งต้นนำ้า

               ลำาธารขึ้น




              50     ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55