Page 28 - สมเด็จพระราชินีนาถกับงานสิทธิมนุษยชน
P. 28

ชาวกัมพูชาที่อพยพมา มีทั้งผู้สูงอายุ คนหนุ่มสาวและเด็ก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม

               ราชินีนาถ ทรงตระหนักดีว่าประเทศที่จะรับบุคลากรเหล่านี้ไปมักจะเลือกรับผู้ที่สามารถประกอบอาชีพ
               ได้เป็นลำาดับแรก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงฝึกอาชีพขึ้นสอนวิชาชีพแก่ผู้อพยพ เช่น
               การจักสาน  ทำาดอกไม้ประดิษฐ์  ทอผ้า  การตัดเย็บเสื้อผ้า  การตัดผม  รวมทั้งสอนหนังสือ

               ทั้งภาษาไทย ภาษาเขมร และภาษาอังกฤษ และส่งพันธุ์ผักให้ผู้อพยพเพาะปลูกพืชผักที่โตเร็วเพื่อนำามา
               รับประทานเอง ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ที่เลี้ยงง่าย เช่น ไก่ เพื่อนำามาประกอบอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการ
               ปรากฏว่าต่อมาเมื่อชาวกัมพูชาอพยพได้เดินทางไปพำานัก ณ ประเทศที่สาม เช่น ประเทศฝรั่งเศส ก็ได้

               ไปเปิดร้านอาหาร ซึ่งผู้อพยพนั้นบอกด้วยความภาคภูมิใจว่าอาหารหลายรายการที่ทำาขายและเป็นที่นิยม
               ของผู้คนนั้นได้เรียนรู้และฝึกทำา ระหว่างที่อยู่ในค่ายอพยพที่เมืองไทย เช่น ก๋วยเตี๋ยวผัด ราดหน้า

               ผัดซีอิ๊ว ฯลฯ เป็นต้น

                        ศูนย์สภากาชาดไทย บ้านเขาล้านนั้นได้ใช้เป็นที่ทำาการ ที่พัก และหน่วยพยาบาลของ

               สภากาชาดไทย โรงเรียนสำาหรับเด็ก โรงฝึกสอนวิชาชีพ สถานที่สำาหรับเด็กกำาพร้าชาวกัมพูชา เป็น
               สถานที่ที่อยู่ในความทรงจำาของชาวกัมพูชาหลายแสนคน ที่หนีภัยสงครามอันโหดเหี้ยมจากผู้ร่วมชาติ
               เดียวกันในครั้งนั้น ทุกคนเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่เป็นเวลานานถึง ๗ ปี ต่อมา เมื่อมีประเทศ

               ที่สามได้รับผู้อพยพแยกย้ายกันไปตั้งภูมิลำาเนา และเมื่อสถานการณ์ของประเทศกัมพูชาสงบ ผู้อพยพ
               บางส่วนเดินทางกลับประเทศไป ทำาให้ศูนย์สภากาชาดไทยเขาล้านจึงปิดดำาเนินการ เมื่อวันที่
               ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๙



              28     ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี น า ถ กั บ ง า น สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33